×

“อนาคตเป็นของคนที่ทำสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง” เปิดตัวตน ไซเอ็ด ซาดิก รัฐมนตรีมาเลเซียที่อายุน้อยที่สุดในอาเซียน

13.09.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • ไซเอ็ด ซาดิก ไซเอ็ด อับดุล ราห์มาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬา วัย 25 ปี จากมาเลเซีย ขึ้นพูดบนเวที World Economic Forum on ASEAN ครั้งล่าสุด ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
  • ไซเอ็ดสร้างสถิติเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่ในประเทศแถบอาเซียน เมื่อเขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬาคนที่ 18 ของมาเลเซีย ภายใต้รัฐบาลใหม่ของมหาเธร์ โมฮัมหมัด
  • ไซเอ็ดให้ความสำคัญกับแผนการสร้างโอกาสให้กับเยาวชนเพื่อสร้างอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมในเศรษฐกิจฐานดิจิทัล
  • นอกจากนี้ยังสนับสนุนเยาวชนในวงการกีฬาให้สร้างความเปลี่ยนแปลงและเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองที่จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่กว่านักกีฬาระดับตำนานของประเทศมาเลเซียอย่างลีชองเหว่ย อดีตนักแบดมินตันมือหนึ่งของโลกชาวมาเลเซีย

ในเวทีการประชุม World Economic Forum on ASEAN ครั้งล่าสุด ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 11 กันยายน ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อค้นหาทางออกสำหรับการร่วมกันพัฒนาไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน

 

แต่ท่ามกลางดาวเด่นแห่งวงการการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในระดับสากลที่เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้กันอย่างคับคั่ง ดาวรุ่งที่เป็นที่พูดถึงและเป็นที่จับตามองนับตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนคือ ไซเอ็ด ซาดิก ไซเอ็ด อับดุล ราห์มาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬา วัย 25 ปี จากมาเลเซีย

 

เขาขึ้นกล่าวในช่วง Open Forum ต่อหน้านักศึกษาชาวเวียดนามหลายร้อยคนที่กรุงฮานอยถึงมุมมองของเขาที่มีต่อการมีส่วนร่วมของเยาวชนอาเซียนในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และแนวทางการเติบโตบนโลกดิจิทัลในอนาคต

 

“ผมคิดว่าเราควรจะให้ความสำคัญกับศักยภาพของเยาวชน และนั่นคือความโดดเด่นของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่สามารถทำลายกำแพงของการจำกัดอายุที่ก่อนหน้านี้มีความคิดที่ว่า ถ้าคุณเป็นเยาวชน คุณเป็นคนที่ไม่มีความสามารถและไม่มีประสบการณ์

 

“แต่เมื่อเราเห็นธุรกิจสตาร์ทอัพอันโดดเด่นที่มีจุดเริ่มต้นจากนักลงทุนรุ่นใหม่ นั่นแหละคือจุดที่เราสามารถทำลายความคิดแบบนั้นได้ และแสดงให้เห็นว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่มีศักยภาพ แต่พวกเขาต้องได้รับการยอมรับจากรัฐบาล จากเอกชน เพื่อการันตีว่าสุดท้ายแล้วเราไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะเป็นผู้นำในอนาคตเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผู้ที่สร้างอนาคตในวันนี้”

 

นับเป็นการจุดประกายครั้งสำคัญสำหรับการประชุม World Economic Forum on ASEAN ที่มีผู้นำในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วม 9 ประเทศ และถือเป็นงานประชุมนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียในปี 2018

 

THE STANDARD จึงอยากพาไปรู้จักกับรัฐมนตรีหนุ่มวัย 25 ปีคนนี้ที่เรียกร้องให้เยาวชนในอาเซียนทำในสิ่งที่ไม่ธรรมดา เพราะเขาเชื่อมั่นว่าอนาคตเป็นของคนที่ทำในสิ่งที่หลายคนคิดไม่ถึง เช่นเดียวกับตัวเขาเอง

 

https://www.instagram.com/p/BmSRrkNBJn8/?taken-by=syedsaddiq

 

ยอดนักดีเบตผู้ปฏิเสธทุนจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด

วันที่ 2 กรกฎาคม ไซเอ็ด ซาดิก หรือในชื่อเต็มว่า ไซเอ็ด ซาดิก ไซเอ็ด อับดุล ราห์มาน ได้สาบานตนก้าวเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬาในรัฐบาลใหม่ของมหาเธร์ โมฮัมหมัด และสร้างประวัติศาสตร์เป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซียและในภูมิภาคอาเซียน

 

แน่นอนว่าการได้รับตำแหน่งด้วยวัยเพียง 25 ปี ทำให้สื่อหลายสำนักเริ่มต้นค้นหาความสำเร็จในอดีตที่นำพาไซเอ็ดมาสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีได้สำเร็จ

 

 

ซึ่งสิ่งที่เราค้นพบก็น่าทึ่งไม่น้อย เพราะไซเอ็ดซึ่งจะมีอายุครบ 26 ปีในวันที่ 6 ธันวาคมนี้เรียนจบปริญญาตรีด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติ โดยในวันที่ยังเป็นนักศึกษา เขาเคยคว้ารางวัล Asia Best Speaker Award ด้านโต้วาทีในการแข่งขัน Asian British Parliamentary Debating Championship ถึง 3 ครั้ง และได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ปฏิเสธทุนเรียนต่อปริญญาโทด้านนโยบายสาธารณะมูลค่า 400,000 ริงกิต หรือประมาณ 3 ล้านบาท จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในประเทศอังกฤษมาแล้ว

 

https://www.instagram.com/p/BmN9ccUBaBR/?taken-by=syedsaddiq

 

จากนั้นเขาเริ่มต้นเข้าสู่สนามการเมืองในปี 2016 ด้วยการเป็นโฆษกพรรคสหประชาชนมาเลย์ ก่อนจะสามารถเอาชนะ ราชาลี อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของ นาจิบ ราชัค ซึ่งเป็น ส.ส. ในการเลือกตั้งเขตมูอาร์ รัฐยะโฮร์ และตัดสินใจปฏิเสธทุน Chevening Scholarship ในด้านนโยบายสาธารณะที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองที่เขาปฏิเสธทุนจากมหาวิทยาลัยในฝันของหลายๆ คนเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายทางการเมืองในมาเลเซีย

 

 

แผนการรวมใจคนทั้งชาติด้วยกีฬา และการฝากความหวังไว้กับนักกีฬาเยาวชน

นอกเหนือจากความต้องการผลักดันโอกาสให้กับเยาวชนของคนรุ่นใหม่ภายในประเทศให้มีบทบาทสำหรับอนาคตของประเทศแล้ว ไซเอ็ดยังเชื่อในพลังของกีฬาที่สามารถสร้างความสามัคคีให้กับคนภายในประเทศได้

 

โดยเฉพาะ Malaysian Games หรือ Sukma การแข่งขันกีฬาระดับประเทศที่จัดขึ้นทุก 2 ปีสำหรับเยาวชนจาก 13 รัฐของมาเลเซีย ซึ่งในปีนี้จะทำการแข่งขันกันระหว่างวันที่ 11-22 กันยายนนี้

 

ซึ่งไซเอ็ดมองว่าการแข่งขัน Sukma มีความสำคัญ เนื่องจากการแข่งขันรายการนี้เป็นการรวมประชาชนชาวมาเลเซียจากทั่วทุกศาสนาและเชื้อชาติมาลงสนามร่วมกันในสปิริตของการแข่งขันกีฬา

 

“กีฬาไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถเฉลิมฉลองและร่วมสนุกได้เท่านั้น แต่กีฬาคือทูตแห่งความสามัคคี และในฐานะที่เราเป็นคนมาเลเซีย เราควรภูมิใจในสิ่งนี้

 

“เราต้องการให้ชาวมาเลเซียทุกคนสนับสนุนสิ่งเหล่านี้ เพราะนอกจากกีฬาจะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความสามัคคีแล้ว กีฬายังสามารถทำลายกำแพงที่ถูกสร้างขึ้นโดยการเมือง เชื้อชาติ และศาสนา”

 

พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยการชี้ให้เยาวชนที่ลงแข่งขันเห็นถึงความสำคัญของ Sukma เนื่องจากการแข่งขันกีฬาในระดับเยาวชนคือโอกาสสำคัญในการเติบโตขึ้นไปเป็นนักกีฬาตัวแทนประเทศในอนาคต

 

“ผมอยากให้พวกคุณพิสูจน์ให้เราเห็นว่าพวกคุณเก่งกว่าลีชองเหว่ย (ยอดนักแบดมินตันจากมาเลเซีย) ผมอยากให้พวกคุณสร้างปรากฏการณ์ด้วยสปิริตของพวกคุณเอง

 

“วันนี้คุณลงแข่งขันในฐานะตัวแทนของรัฐตนเอง แต่ในอนาคตพวกคุณจะลงแข่งขันในฐานะตัวแทนประเทศ”

 

https://www.instagram.com/p/BnWBQ2DBl4b/?taken-by=syedsaddiq

 

นอกจากนี้ไซเอ็ดยังให้ความสำคัญกับอีสปอร์ต โดยตั้งเป้าผลักดันให้มาเลเซียเป็นมหาอำนาจแห่งอีสปอร์ตประจำภูมิภาคเอเชีย ซึ่งระหว่างการเดินทางเยือนประเทศสิงคโปร์ ไซเอ็ดมีแผนดึงนักลงทุนมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับวงการอีสปอร์ต ซึ่งเขาเชื่อว่าการพัฒนาอีสปอร์ตภายในประเทศจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเยาวชน โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมรายล้อมอีสปอร์ตอย่างการพัฒนาเกม การเขียนโปรแกรม ไอที และอาจต่อยอดสู่เทคโนโลยีต่างๆ ในยุคดิจิทัล

 

“ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการดึงเอาโครงสร้าง การลงทุน และแผนการพัฒนาต่างๆ ในอุตสาหกรรมอีสปอร์ตเพื่อให้นักสร้างสรรค์เกมและนักกีฬาของอีสปอร์ตมีพื้นที่ของตัวเอง” ไซเอ็ดให้สัมภาษณ์ระหว่างการเดินทางไปเยือนสิงคโปร์

 

 

เห็นได้ชัดว่าเขามีเป้าหมายที่แนวแน่จนมันได้นำพาเขามาสู่ตำแหน่งระดับสูงของรัฐบาลมาเลเซียด้วยวัยเพียง 25 ปี ซึ่งเขาไม่ได้พกเพียงแค่พลังที่จะผลักดันตัวเองไปข้างหน้า แต่ยังมีความต้องการที่จะให้โอกาสและผลักดันเยาวชนภายในประเทศให้ได้รับโอกาสด้วย

 

 

ในช่วงท้ายของเวที Open Forum ใน World Economic Forum on ASEAN ไซเอ็ดได้กล่าวทิ้งท้ายเป็นคำแนะนำให้กับเยาวชนภายในภูมิภาคอาเซียนให้เชื่อมั่นว่าโลกอนาคตนั้นเป็นของพวกเขา ขอให้พวกเขาค้นพบแพสชันอันร้อนแรงของตัวเอง และก้าวไปสู่เป้าหมายด้วยวิธีการที่แปลกใหม่และแตกต่างไปจากเดิม

 

“คำแนะนำจากผมสำหรับเยาวชนในอาเซียนคือคิดนอกกรอบและทำในสิ่งที่มากกว่าปกติทั่วไป และข้อดีของจุดเริ่มต้นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 คือเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจฐานดิจิทัล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เรามีความเชี่ยวชาญ

 

“เราทุกคนมีแพสชันของตัวเอง บางคนอยากเป็นนักการเมือง นักลงทุนรุ่นใหม่ หรือต้องการเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพของตัวเอง และเมื่อใดก็ตามที่คุณค้นหาแพสชันนั้นเจอ คุณต้องคิดล่วงหน้าไป 10 ขั้นเสมอ และมองหาว่าความต้องการของผู้คนในยุคสมัยของคุณและสิ่งที่ผู้คนอีก 20 ปีข้างหน้าต้องการคืออะไร

 

“หาแพสชันที่ร้อนแรงนั้นให้เจอ และผลักดันมันด้วยวิธีการที่แปลกใหม่เพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จในอุดมคติ”

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X