ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ของออสเตรเลีย ประกาศเตรียมเพิ่มมาตรการป้องกันโควิด-19 ในนครซิดนีย์ ด้วยการห้ามประชาชนส่วนใหญ่กว่า 5.3 ล้านคน ไม่ให้เดินทางออกจากเมือง และจำกัดการรวมกลุ่มของประชาชน รวมถึงขยายมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในอาคารออกไปอีก 1 สัปดาห์ หลังพบคลัสเตอร์แพร่ระบาดใหม่ ที่มีจุดเริ่มต้นจากศูนย์การค้าในย่านชายหาดบอนไดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงตอนนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 37 คนแล้ว ถือเป็นคลัสเตอร์แพร่ระบาดที่มีจำนวนมากที่สุดของซิดนีย์ นับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว
คลัสเตอร์ระบาดใหม่ดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของทางการออสเตรเลีย ที่กำลังพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา หรือสายพันธุ์อินเดีย ที่มีอัตราแพร่ระบาดรุนแรง ซึ่งทางการกังวลว่าเชื้อไวรัสอาจระบาดไปสู่ภูมิภาคอื่นของประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ ที่เตรียมบังคับใช้ อาทิ การห้ามแต่ละครัวเรือนต้อนรับแขกเกิน 5 คน ห้ามร้องเพลงและเต้นในสถานที่ต่างๆ ยกเว้นงานแต่งงาน ห้ามการเต้นรำเกิน 20 คน และให้รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล โดยกำหนดพื้นที่คนละ 4 ตารางเมตร และลดจำนวนคนเข้าสนามกีฬาหรือสถานที่ต่างๆ ลง 50%
ขณะที่ กลาดีส์ เบเรจิกเลียน (Gladys Berejiklian) นายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประกาศว่ามาตรการป้องกันใหม่เหล่านี้จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 16.00 น. ของวันนี้ (23 มิถุนายน) พร้อมขอให้ประชาชนหยุดการรวมกลุ่มและทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็น
“โปรดสละกิจกรรมที่ไม่จำเป็น โปรดอย่าร่วมงานชุมนุมทางสังคม เว้นแต่คุณจะต้องทำจริงๆ” เธอกล่าว
ด้าน แบรด ฮาซซาร์ด รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ แสดงความกังวลต่อการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยมองว่าเป็นอันตรายที่แท้จริงของชาวซิดนีย์ พร้อมขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการใหม่เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด
“ผมรู้จากประสบการณ์ของผม มันมีระดับของความเหน็ดเหนื่อยและความเฉื่อยชาในการรับมือไวรัส แต่ตามหลักแล้ว นี่เป็นไวรัสที่ใหม่และอันตรายมากกว่า และความเฉื่อยชานั้นต้องถูกขจัดออกไป” ฮาซซาร์ดกล่าว
ขณะที่คลัสเตอร์แพร่ระบาดในซิดนีย์ ยังก่อให้เกิดความกังวลไปยังนิวซีแลนด์ หลังพบว่าหนึ่งในผู้ติดเชื้อเดินทางจากซิดนีย์ไปยังกรุงเวลลิงตันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทางการนิวซีแลนด์ต้องประกาศเพิ่มมาตรการป้องกันและระงับ Travel Bubble หรือการจับคู่เดินทางข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ สำหรับผู้โดยสารที่มาจากซิดนีย์
ภาพ: Photo by Jenny Evans/Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: