จากฝีมือการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้ปลุกปั้นโครงการสวอนเลค เรสซิเด้นซ์ เขาใหญ่ จนประสบความสำเร็จไปแล้ว วันนี้เดินหน้าสู่ตลาดน้ำแร่ เปิดตัวแบรนด์ 6ty Degrees (ซิกตี้ ดีกรี) น้ำแร่ธรรมชาติระดับพรีเมียม ท้าชิงเจ้าตลาดน้ำแร่ หวังขึ้นมาอยู่ระดับ Top 3 ให้ได้
เรียกได้ว่าแบรนด์ 6ty Degrees เป็นผู้เล่นน้องใหม่รายที่ 4 ในตลาดน้ำแร่ ที่มีมูลค่าประมาณ 3-4 พันล้านบาท โดยผู้เล่นที่ถือส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดคือแบรนด์น้ำดื่มเพอร์ร่า ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ตามด้วยน้ำดื่มมิเนเร่ อยู่ภายใต้เนสท์เล่ ประเทศไทย และน้ำดื่มมองต์เฟลอ ภายใต้สหพัฒนพิบูล ซึ่งที่ผ่านมาตลาดมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ไม่ใช่แค่เพียงแบรนด์คนไทยด้วยกันเอง แต่ยังมีแบรนด์จากต่างประเทศอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผ่าสงครามน้ำดื่มวิตามิน แบรนด์ใหญ่ลงสนามดุเดือด แต่ใครจะชนะศึกนี้?
- อยากเป็นเบอร์ 1 แค่น้ำแร่ไม่พอ ‘เพอร์ร่า’ ต้องเป็น ‘แฟชั่นแบรนด์’ ด้วย
- ‘อิชิตัน’ แตกไลน์เครื่องดื่ม เปิดตัวน้ำดื่มผสมวิตามิน B เจาะตลาดน้ำแร่ 4 พันล้าน
ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ ‘รีน่า อุดมคุณธรรม’ ผู้ก่อตั้งบริษัท แร่เบฟเวอเรจ จำกัด ก็ได้ประกาศนำแบรนด์ 6ty Degrees เข้าไปแย่งส่วนแบ่งการตลาด 20% และก้าวสู่ตำแหน่ง Top 3 ให้ได้ภายใน 3 ปี ด้วยจุดแข็งของการดีไซน์ขวดให้มีความพรีเมียมโดยเฉพาะฝาขวดแบบใหม่ ซึ่งเป็นแบรนด์แรกในไทยที่เป็น Single Waste ฝาและขวดยึดติดเป็นชิ้นเดียวกัน สะดวกในการใช้งาน วางขายผ่านร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ 2 ขนาด ราคา 12 และ 20 บาท
“ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันสูง ในช่วงนั้นเราได้เดินทางเข้ามาสำรวจพื้นที่ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างโรงแรมหรือพูลวิลล่ารองรับนักท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว แต่กลับพบกับต้นกำเนิดจากแหล่งน้ำพุร้อนใต้ดินที่มีความลึกกว่า 200 เมตร และมีอุณหภูมิ 60 องศา ก็คิดอยากจะทำโปรเจกต์ออนเซนโฮเทล ” รีน่ากล่าว
ขณะเดียวกันเราก็ได้ส่งตัวอย่างน้ำแร่ไปตรวจสอบคุณภาพที่ 3 สถาบันรับรองแร่ธาตุ ได้แก่ SGS ประเทศออสเตรเลีย, Intertek ประเทศอังกฤษ และ ALS ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จนได้รับการการันตีคุณภาพกลับมา แต่ช่วงนั้นยังไม่ค่อยอยากทำธุรกิจน้ำดื่มมากนัก เพราะเห็นว่าตลาดมีการแข่งขันสูง แต่น้ำก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต จึงเปลี่ยนแผนมาสร้างโรงงานผลิตน้ำแร่ธรรมชาติ
โดยได้ทุ่มงบกว่า 1 พันล้านบาท สร้างโรงงานผลิตบนเนื้อที่ 18 ไร่ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการรับรองจาก UNESCO ให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลของไทย
สำหรับโรงงานเป็นระบบปิด มีกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ผ่านกระบวนการกลั่นกรองจนถึงการบรรจุ และมีกำลังการผลิตประมาณ 850,000 ขวดต่อวัน แต่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมเพียง 5 คน เนื่องจากกระบวนการในโรงงานเป็นระบบ Fully Automation ใช้หุ่นยนต์ในการจัดเก็บเข้าแวร์เฮาส์
รวมถึงการเร่งเครื่องทำการตลาด ที่วางงบประมาณไว้กว่า 100 ล้านบาทในการเปิดตัวสินค้าและจัดทำโฆษณา เพื่อสื่อสารแบรนด์และสร้างการจดจำกับกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นคนรุ่นใหม่และกลุ่มคนรักสุขภาพ
“ที่สำคัญเรายังเตรียมต่อยอดไปถึงการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยขณะนี้มีบริษัทต่างประเทศติดต่อมาเพื่อจะนำน้ำแร่ 6ty Degrees ไปจำหน่าย ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ ซาอุดีอาระเบีย จีน และอินเดีย อีกไม่นานเราน่าจะได้เห็น 6ty Degrees วางจำหน่ายในต่างประเทศ” ผู้ก่อตั้งบริษัท แร่เบฟเวอเรจ จำกัด ย้ำ
