ทุกช่วงหน้าร้อนบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำของทวีปเมริกาเหนือมักจะอื้ออึงไปด้วยเสียงร้องเพลงของเจ้านกกระจอกบึงจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งงานศึกษาล่าสุดพบว่าเจ้านกสีน้ำตาลตัวกระจิริดที่อาจจะรู้จักเพลงที่ร้องไม่กี่เพลงนี้ไม่เคยเปลี่ยนเสียงร้องและท่วงทำนองสืบทอดต่อกันมายาวนานนับพันปี
งานศึกษาที่ได้ตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature Communications เมื่อวานที่ผ่านมา (20 มิ.ย.) เผยว่านักวิทยาศาสตร์ได้พบหลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่า นกกระจอกบึงอเมริกัน (American Swamp Sparrow) ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Melospiza Georgiana ได้สืบทอดเสียงร้องเพลงเดิมนานนับพันปี เจ้านกกระจอกวัยรุ่นจะเลียนเสียงร้องเพลงของนกกระจอกที่แก่กว่าโดยมีความแม่นยำสูงมาก แทบจะไม่มีความคลาดเคลื่อนเลย คล้ายกับการสืบทอดและเก็บรักษาวัฒนธรรมประเพณีของมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ
โรเบิร์ต ลากลัน นักชีววิทยาประจำมหาวิทยาลัยควีนแมรีในกรุงลอนดอน และหัวหน้าทีมสำรวจและศึกษาในครั้งนี้ระบุว่า “พวกเราสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าเจ้านกกระจอกบึงนี้แทบจะผิดพลาดน้อยมากขณะที่พวกมันเรียนรู้เสียงเพลง ซึ่งพวกมันไม่ได้เรียนรู้เสียงร้องอะไรก็ได้หรือจดจำได้ทุกๆ เพลง แต่พวกมันจะเลือกจำเสียงและท่วงทำนองที่ได้ยินบ่อยครั้งที่สุด” ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกว่า ‘อคติจากการคล้อยตาม’ (Conformity Bias) ซึ่งเคยถูกเชื่อว่าเป็นลักษณะพิเศษที่สามารถพบได้ในมนุษย์เท่านั้น
ในช่วงระหว่างปี 2008 และ 2009 ลากลันและเพื่อนร่วมทีมได้ทำการบันทึกเสียงร้องเพลงของเจ้านกกระจอกบึงเพศผู้กว่า 650 ตัวทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ก่อนที่จะทำการวิเคราะห์ตัวโน้ต การออกเสียง และส่วนประกอบต่างๆ ของเสียงร้องของนกแต่ละตัว และพบว่ามีราว 2% เท่านั้นที่อาจจะเกิดการคลาดเคลื่อนของเสียงร้องได้ ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ
ลากลันเผยว่า “การผสมผสานกันระหว่างอคติจากการคล้อยตามและความสามารถในการลอกเลียนแบบเสียงร้องของบรรพบุรุษได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทำให้เจ้านกกระจอกบึงเหล่านี้สามารถส่งต่อเสียงร้องเหล่านี้ได้ยาวนานร่วมพันปี”
ในขณะที่ แอนดรูว์ ฟานสเวิร์ธ นักปักษีวิทยาประจำมหาวิทยาลัยคอร์เนล ระบุว่าการค้นพบดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก เขายังได้เพิ่มเติมโดยอ้างอิงงานศึกษาของตนเองว่า สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง อาคารบ้านเรือนต่างๆ รวมถึงพื้นที่เพาะปลูกทำการเกษตรที่รุกล้ำถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า โดยเฉพาะนกร้องเพลง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคในการขัดขวางการสืบทอดและเก็บรักษาธรรมเนียมปฏิบัติ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบด้านลบต่อเสียงร้องและท่วงทำนองดังกล่าวของบรรดานกร้องเพลงทั้งหลาย
อ้างอิง: