วันนี้ (20 พฤษภาคม) ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนากล้า จังหวัดนครราชสีมา เวลา 11.00 น. สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมแกนนำพรรค ให้สัมภาษณ์หลังพรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์ยกเลิกดีลเข้าร่วมรัฐบาล ว่าพรรคเรามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่ได้รับเลือกเพียง 2 ท่าน ฉะนั้นในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล พรรคไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
จนกระทั่งวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (18 พฤษภาคม) ขณะนั้นสถานการณ์การจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาลมี 8 พรรคร่วมรัฐบาล 313 เสียง ซึ่งเข้าใจว่าเสียงที่จะลงมติโหวตนายกรัฐมนตรีต้องมี 376 เสียง ฉะนั้นพรรคก้าวไกลได้ติดต่อมาที่พรรคชาติพัฒนากล้า ขอเรียนเชิญพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมรัฐบาล เพราะขณะนี้เสียงยังไม่เพียงพอในการโหวตสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
สุวัจน์กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ต้องมี 375 เสียง ผู้ก่อตั้งรัฐบาลขณะนี้ขาด 60 กว่าเสียง เป็นหน้าที่ของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ต้องให้การสนับสนุน เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ เราจึงได้ตอบรับในหลักการ แต่เราต้องประชุมคณะกรรมการบริหาร เพราะชาติพัฒนากล้าต้องไปลงนามใน MOU ด้วย มีผลผูกพันกับพรรค จึงได้นัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อที่จะทำการพูดคุย แต่ตอนนี้ขั้นตอนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคคงไม่เกิด เพราะว่ายุติการเจรจาแล้ว
สุวัจน์กล่าวว่า เมื่อทางพรรคก้าวไกลได้แถลงเพิ่มเติมว่าจะยุติการเจรจาในการเข้าร่วมรัฐบาล ก็ได้แจ้งมาตามที่ได้แถลงไว้ทางเราก็ No Problem ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาตอบรับคำเชิญอย่างเป็นทางการ เราไม่ได้ไปติดต่ออะไรทั้งสิ้น เราอยู่เฉยๆ เมื่อมีการติดต่อมาแล้วเราได้พิจารณาไปว่า เราเคยพูดก่อนเลือกตั้งว่าเราอยากเห็นการเมืองมีเสถียรภาพ อยากเห็นการเมืองที่เป็นเสียงข้างมากไม่ใช่เสียงข้างน้อย และอยากเห็นการยึดถือประเพณีว่าใครที่เมื่อเลือกตั้งได้เป็นที่ 1 จะต้องเป็นคนริเริ่มในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นเมื่ออยู่ในองค์ประกอบที่เราคุยกัน เราก็ตอบรับคำเชิญเหมือนในหลักการ
“ดังนั้นเมื่อเราจะสนับสนุนความร่วมมือทางการเมืองอะไรมันเป็นสปิริต การเมืองวันนี้ 2 เสียงจาก 500 เสียง ถ้าจะตัดสินใจไม่ได้ตัดสินใจบนการต่อรองเพื่อผลประโยชน์ เป็นการตัดสินใจเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรไม่ดี ยังรักกันผูกพัน พรรคการเมืองมีอะไรก็พูดคุยกันได้ พรรคชาติพัฒนากล้าผมต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทางการเมือง เชิญมาก็ให้ความร่วมมือ ยุติมาก็ให้ความร่วมมือ ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้รู้สึกน้อยใจหรือโกรธอะไร เพราะผมพูดอยู่เสมอว่า เราเป็นได้ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่มีปัญหา No Problem” สุวัจน์กล่าวในที่สุด
สุวัจน์กล่าวว่า ขอบคุณพรรคก้าวไกลที่ให้เกียรติมาเรียนเชิญพรรคชาติพัฒนากล้าในการร่วมรัฐบาล ขอบคุณที่ยุติการร่วมรัฐบาล ยืนยันไม่ได้มีความรู้สึกอะไรไม่ดี ไม่มีปัญหา ยังเป็นมิตรสหายและพรรคการเมืองที่พร้อมที่จะพูดคุย ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้เราไม่ได้ตามคาดหวัง เราคาดหวังว่า 25 เสียง แต่ได้เพียงแค่ 2 เสียง
เมื่อถามว่าจะยกมือโหวตให้พรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น สุวัจน์กล่าวว่า จะต้องมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการพรรค ยืนยันว่าสามารถพูดคุยกันได้ เพราะเราไม่ใช่พรรคการเมืองที่ปิด ทุกคนเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร
ส่วนจะช่วยพูดให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ช่วยโหวตสนับสนุนพิธาหรือไม่ สุวัจน์กล่าวว่า อะไรที่ผมช่วยประเทศชาติได้ก็จะทำ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของคนจัดตั้งรัฐบาล ขอเอาใจช่วยให้เรียบร้อย เป็นกำลังใจให้
“การเมืองจากนี้ไปจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ทุกคนมีบทเรียนอยู่แล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ให้ประสบการณ์ใหม่กับทุกพรรคการเมือง ว่าวันนี้ถ้าจะชนะเลือกตั้งอะไรคือคำตอบ” สุวัจน์กล่าว
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาได้คุยกับ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า หรือไม่ สุวัจน์กล่าวว่า หัวหน้าพรรคก็ไปเที่ยวออสเตรเลีย ผมก็โทรคุยกับหัวหน้าพรรค แจ้งให้ทราบว่ามีการเชิญจากพรรคก้าวไกล ก็บอกต้องบินกลับมาด่วนนะ มีประชุมวันจันทร์ ก็คงจะโทรไปบอกว่าให้เที่ยวต่อไป ไม่ต้องประชุมแล้ว
อย่างไรก็ตามในช่วงท้าย สุวัจน์ปฏิเสธตอบคำถามกรณีกรณ์เป็นสาเหตุที่ทำให้การเข้าร่วมรัฐบาลไม่สำเร็จ ยืนยันว่าเคารพการตัดสินใจของพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ยังไม่มีฝ่ายค้านติดต่อมา เพราะหลักการของเราชัดเจนคือการเคารพเสียงของประชาชน บรรยากาศวันนี้ทุกพรรคนิ่งไม่มีการขยับ ให้เกียรติพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล
