วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC อาณาจักรแสนล้านที่ถือเป็นรากเหง้าของเครือเซ็นทรัลได้มีแม่ทัพคนใหม่ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูลจิราธิวัฒน์อย่าง ‘สุทธิสาร จิราธิวัฒน์’
ก่อนจะขึ้นมานำทัพ CRC สุทธิสารนั้น มีประสบการณ์เกือบ 30 ปีในธุรกิจของตระกูลจิราธิวัฒน์ โดยเริ่มจากการเข้าไปปลุกปั้น ‘เพาเวอร์บาย’ ในปี 2540 ในช่วงที่ไทยยังไม่มีร้านมัลติแบรนด์สำหรับขายเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ก่อนจะขยับไปดู ‘ซุปเปอร์สปอร์ต’ ที่วันนี้เป็นร้านมัลติแบรนด์ที่ขายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา
แต่สิ่งที่สร้างชื่อให้สุทธิสารมากที่สุดคือการปั้น ‘ไทวัสดุ’ ร้านปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ซึ่งตอนนั้นในไทยยังไม่มีเจ้าตลาดอย่างชัดเจน ก่อนที่สุทธิสารจะใช้เวลา 10 กว่าปีในการทำให้ ‘ไทวัสดุ’ ขึ้นมากินส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดด้วยจำนวนสาขา 86 สาขาและรายได้ทะลุ 3 หมื่นล้านบาท
เรียกได้ว่า เครือเซ็นทรัลเห็นช่องทางการตลาดที่ไหนก็จะส่งสุทธิสารไปบุกเบิกเป็นธุรกิจใหม่ทำให้สุทธิสารเองมีความเข้าใจในธุรกิจของ CRC เป็นอย่างดีจนวันนี้ได้ขึ้นมาเป็นแม่ทัพในที่สุด
ในการพบเจอกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกสุทธิสารยอมรับถึงความท้าทายกับการเข้ารับตำแหน่งนี้ซึ่งมาพร้อมกับโจทย์ของการทำธุรกิจในยุคที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นับเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก
“CRC มองความท้าทายเหล่านี้เป็นโอกาส และเป็นแรงขับเคลื่อน คิดใหม่และทำใหม่ (Rethink & Reset) โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมแกร่งให้กับการทำงาน รวมถึงทำให้เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าได้ลึกกว่าเดิม เพราะผู้บริโภคในทุกวันนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องราคาสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่มองหาประสบการณ์ที่ดีที่สุด คุ้มค่า สะดวก ง่าย และรวดเร็ว”
ดังนั้นทิศทางนับจากนี้ของ CRC จึงจะปรับใหม่ให้เป็นไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยหลังจากที่สามารถครอบคลุมลูกค้าในระดับกลางและบนได้แล้ว หลังจากนี้ CRC กำลังจะขยับตัวไปหากลุ่ม Young & Mainstream ครอบครัวที่ยังไม่มีลูก
การเข้าหาลูกค้าเหล่านี้จะมาจากการขยายแบรนด์ต่างๆ ที่อยู่ในเครือซึ่งตามแผน 3 ปีต่อจากนี้ (2025-2027) จะใช้งบลงทุนรวม 45,000-47,000 ล้านบาทแบ่งเป็น ขยายสาขาใหม่ประมาณ 55% ส่วนที่เหลือใช้สำหรับปรับปรุงสาขาเดิม และพัฒนาระบบ Back office ทั้งหมด เช่น IT, Logistic
งบลงทุนต่อปี 15,000 – 17,000 ล้านบาท ประเทศไทยจะกินสัดส่วนใหญ่ที่สุดมากกว่า 85% รองลงมาเป็น เวียดนาม 10-13% และ อิตาลี 5-7% โดยจะเน้นสร้างความแข็งแรงให้กับธุรกิจในไทยและเวียดนาม
ช่วง 3 ปีจากนี้ห้างสรรพสินค้าที่มี 76 สาขาจะเปิดเพิ่ม 1-2 สาขา รีโนเวท 4-6 สาขา, ท็อปส์จะเปิด 25-30 สาขา รีโนเวท 8-10 สาขา, ไทยวัสดุ 86 สาขาเปิดเพิ่ม 13-16 สาขา รีโนเวท 8-10 สาขาม และโรบินสันไลฟ์สไตล์เปิดเพิ่ม 1-2 สาขา รีโนเวท 4-6 สาขา ส่วนในเวียดนามแบรนด์ Go ที่มีรวมกัน 56 สาขา จะเปิดเพิ่มรวม 16-21 สาขาทั้งโมเดลเล็กจะไปยังเมืองกลุ่มระดับ 3-4 และใหญ่จะเปิดในเมืองระดับ 1 และ 2
ในไทยตัวโรบินสันจะเน้นปรับให้เข้ากับคนท้องถิ่นให้มากขึ้น ขณะที่ท็อปส์จะไปยังโมเดลเดลี่ที่เข้าถึงคนได้มากกว่า ไทยวัสดุจะจับตลาดกลุ่มห้องน้ำ ห้องครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้า
เมื่อถามถึงเป้าหมายแม่ทัพคนใหม่ของ CRC ระบุว่า “ในระยะเวลา 3 ปีนี้ ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ และ EBITDA ต่อปีประมาณ 5%”
ถือเป็นตัวเลขที่ไม่มากหรือน้อยเกินไปในภาวะเศรษฐกิจที่มีแต่ความท้าทายอยู่รอบด้าน!