จากกรณี สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท อดีตพิธีกรและนักร้องชื่อดัง ได้แชร์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถาบันฯ ทำให้ในเวลาต่อมา อภิวัฒน์ ขันทอง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท. อธิชย์ ดอนนันชัย รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 โดยออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ (26 เมษายน)
ต่อมาสุทธิพงศ์พร้อม กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท. สำเนียง โสธร รอง ผกก. (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยสุทธิพงศ์มีสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกล่าวว่า ความรู้สึกในวันนี้จะว่าไม่เครียดก็จะแปลก แต่สิ่งที่เครียดและเป็นกังวลคือทางคุณแม่และคนสนิทที่อายุมากเป็นห่วงที่เราถูกตั้งข้อหาและอาจถูกจับกุม ซึ่งบุคคลเหล่านี้อายุมากแล้ว
ส่วนเรื่องคดีนั้นตนไม่ได้คิดอะไรแล้ว เพราะเวลานี้การดำเนินคดีมันเกิดขึ้นแล้ว มันเกินที่ตัวเราจะควบคุมหรือทำอะไรได้แล้ว มันขึ้นอยู่กับกระบวนการว่าจะสืบหาความจริงว่าผิดจริงตามข้อกล่าวหาหรือไม่
สุทธิพงศ์กล่าวต่อไปว่า ตนเองยังคงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของผู้มีอำนาจในรัฐบาล คนที่บริหารบ้านเมือง อะไรที่คิดว่าไม่เข้าท่า ไม่ดี ก็คงจะวิจารณ์ต่อไป แต่ก็จะต้องมีการระมัดระวังมากขึ้น เพราะตนเชื่อว่าการวิพากษ์วิจารณ์โดยการพูดความจริงนั้นเป็นการกระทำของคนที่รักและเป็นห่วงจริงๆ ถ้าการกระทำใดเป็นการกระทำที่ผิดแต่คนที่รักไม่วิพากษ์วิจารณ์กัน จะยิ่งทำให้เหลิงและหลงในสิ่งที่ทำ
อย่างไรก็ตาม คิดว่าการดำเนินคดีกับตนนั้น ถ้ามองในมุมกลับก็คงเป็นการปรามไม่ให้เกิดการกระทำในลักษณะเดียวกันขึ้นมาอีก ซึ่งการถูกดำเนินคดีของตนนั้นทำให้ตนสูญเสียโอกาสสูญเสียงานไปพอสมควร รวมไปถึงเพื่อนสนิทอย่างเบิร์ด (กุลพงศ์ บุนนาค) ด้วย เพราะเวลาที่ลูกค้าจะจ้างงานส่วนมากเขามักจะจ้างเป็นคู่ แต่เบิร์ดก็ยังคงให้กำลังใจตนเสมอ
ด้านกฤษฎางค์กล่าวว่า ในวันนี้ทางสุทธิพงศ์ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน จากกรณีที่แชร์ข่าวสารของทางเพจรอยัล เวิลด์ ประเทศไทย ซึ่งเนื้อหาของข่าวดังกล่าวก็เป็นเหมือนการนำเสนอข่าวสารทั่วไป เหมือนเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ซึ่งในวันนี้ก็ได้ทราบว่าเรื่องอะไร หลังจากนี้ก็จะมีการนัดหมายภายใน 30 วัน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ถ้าผิดจริงทางพนักงานสอบสวนก็จะเสนอให้อัยการสั่งฟ้องต่อไป