วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมด้วยทีมทนายความ ได้เดินทางมาตามที่ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในคดีหมายเลข ดำ อ. 247/61 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. กับพวก ร่วมกันเป็นจำเลย ฐานร่วมกันก่อการกบฏ ก่อการร้าย มั่วสุม ซ่องโจร ฯลฯ
โดย สุเทพแสดงความคิดเห็นถึงการประชุมสภาวานนี้ (6 มิ.ย.) ซึ่งมีการโหวตเลือก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว และไม่คิดว่าเป็นเสียงโหวตหรือรัฐบาลปริ่มน้ำแต่อย่างใด หากบริหารงานดี แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ก็จะได้รับการยอมรับจากประชาชน และในการคัดสรรคนมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หาก พล.อ. ประยุทธ์ เลือกเอง ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้คนที่เหมาะสมกับงาน ถูกใจกับประชาชน ที่มีคนวิจารณ์ว่า รัฐบาลชุดนี้อายุไม่ยืน ก็ขอให้อย่ามองในแง่ร้าย มองเรื่องต่างๆ ในแง่ดีบ้าง ส่วนเรื่องความเป็นเอกภาพของแต่ละพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลนั้น เชื่อว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะทุกพรรคที่มาร่วม ต้องสมัครสมานสามัคคีไปในทางเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. ไม่สำเร็จนั้น ไม่ใช่การพ่ายแพ้ของฝ่ายประชาธิปไตย แต่เป็นการถูกปล้นชัยชนะว่า ในส่วนนี้ต้องถามว่าถูกปล้นหลังการเลือกตั้งหรือหลังการเลือกนายกฯ ซึ่งพรรคของตนเองได้ ส.ส. เพียง 5 คน แต่พรรคอื่นที่ได้ ส.ส. 40 กว่าคน ปล้นมาหรือไม่ เรื่องการเมืองควรดำเนินไปตามกฎกติกา ไม่ควรมากล่าวหากัน
เมื่อถามว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันควรมีการปรับแก้หรือไม่ภายหลังจากการจัดตั้งรัฐบาล สุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่รัฐธรรมนูญจะมีการปรับแก้ไขตามระยะเวลา แต่ส่วนตัวมองว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้แล้ว