เม็ดเงินไหลเข้ากองทุนยั่งยืนชะลอตัวทั่วโลก ไตรมาส 2 ปีนี้มีเงินไหลเข้าสุทธิเพียง 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยประเด็นเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่วนกองทุนยั่งยืนในไทยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในไตรมาส 2 ที่ 5.43 หมื่นล้านบาท
ข้อมูลจากมอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ระบุว่า ในไตรมาส 2 ปี 2566 กองทุนยั่งยืนในประเทศไทยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 5.43 หมื่นล้านบาท แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่แล้ว โดยมีเงินไหลออกสุทธิเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินไหลออกจากกลุ่มกองทุนที่ให้ผลตอบแทนในแดนบวกเกือบทั้งหมด นำโดยกองทุนกลุ่ม Global Equity ที่มีเงินไหลออกมากที่สุด 850 ล้าน และมีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 9.7%
ทั้งนี้ กองทุนกลุ่ม Global Equity นับเป็นกลุ่มกองทุนยั่งยืนขนาดใหญ่ที่สุด โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของกองทุนยั่งยืนในไทย
โดยในไตรมาส 2 นี้มีกองทุนยั่งยืนเปิดเพิ่มใหม่หนึ่งกองทุนคือ abrdn China A Share Sustainable Equity-A ซึ่งมีเม็ดเงินไหลเข้าอยู่ที่ราว 457 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุน K Positive Change Equity-A(A) ยังคงเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มกองทุนยั่งยืน โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.12 หมื่นล้านบาท
ด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนทั่วโลกยังคงเป็นภาพเม็ดเงินไหลเข้าที่ลดลง โดยเป็นเงินไหลเข้าสุทธิทั้งไตรมาสเพียง 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยประเด็นเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
กองทุนเพื่อความยั่งยืนทั่วโลกมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มสูงขึ้น และแตะระดับเกือบ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน โดยกองทุนยั่งยืนของยุโรปยังมีเงินไหลเข้าสุทธิ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุนยั่งยืนของสหรัฐฯ มีเงินไหลออกเพียง 635 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเงินไหลออก 5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อนหน้า