Stella McCartney นอกจากจะเป็นดีไซเนอร์ชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว เธอยังถูกยกย่องในฐานะเจ้าแม่ Sustain ที่เอาจริงเอาจังเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดเวลาที่ผ่านมา แบรนด์แฟชั่นหรูหราภายใต้ชื่อ Stella McCartney เน้นใส่ใจสิ่งแวดล้อมมายาวนานด้วยการใช้วัสดุที่ Eco Friendly และมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและเป็นที่ต้องการมากที่สุด โดยมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เมื่อเธอหันมาทำแบรนด์สกินแคร์คลีนบิวตี้ Stella McCartney Beauty ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton ก็มีการตั้งเป้าหมายว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 3 รายการในคอลเล็กชันแรกก่อน ประกอบด้วย คลีนเซอร์ เซรั่ม และครีมบำรุงผิว ที่มาในคอนเซปต์น้อยแต่ทรงประสิทธิภาพ
Stella McCartney เปิดใจว่า เธอไม่ใช่คนประเภทที่จะกว้านซื้อทุกอย่างมาประโคมผิวหน้าทั้งหมด เธอต้องการแค่อะไรที่น้อย ไม่ซับซ้อน แต่มอบผลลัพธ์ที่ทำงานกับผิวได้ดี ทั้งวิธีคิดและวิธีทำงานของเธอที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการเพียงการดูแลผิวที่สะอาด ปลอดภัย และมีความบริสุทธิ์มากที่สุด นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอและทีมงาน LVMH ต่างทุ่มเทเวลาค้นคว้าตลอด 3 ปี เพื่อให้ได้สูตรและบรรจุภัณฑ์ที่จะกลายเป็นคอลเล็กชัน Clean Beauty ที่จะยกระดับมาตรฐานของความงามที่ยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน และพร้อมจะเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมทั้งแฟชั่นและความงาม ที่ผลักดันให้เกิดการตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
เมื่อโฟกัสไปที่ส่วนผสมเด่นๆ ที่มีการเปิดเผย พบว่ามีส่วนผสมที่น่าทึ่งเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมที่ทำจากอาหารรีไซเคิล เช่น สควาเลน ซึ่งสกัดมาจากน้ำมันมะกอกจากอุตสาหกรรมน้ำมันมะกอกในยุโรปทางตอนเหนือ รวมถึงสารสกัดจากดอกซากุระที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงหินแซมไฟร์ออร์แกนิก ที่ว่ากันว่าอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวและอิ่มตัว และมีไฟโตสเตอรอลที่ช่วยปรับผิวที่มีริ้วรอยให้เรียบเนียนได้ ส่วนบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์นี้จะมาจากการรีไซเคิล และใช้ถุงผ้ารีไซเคิลแทนพลาสติก นอกจากนี้ยังไม่มีการใช้ส่วนผสมหรือใช้กระบวนการผลิตที่สร้างมลพิษต่อโลก แม้แต่การขนส่งผลิตภัณฑ์ก็จะใช้การขนส่งทางเรือแทนการใช้เครื่องบิน ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะสามารถช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ในคอลเล็กชันนี้ได้ถึง 3 เท่า สำหรับใครที่สนใจติดตามข้อมูลเพิ่ม สามารถรอติดตามได้ที่เว็บไซต์ stellamccartneybeauty.com ซึ่งจะเปิดตัวภายในเดือนนี้
อ้างอิง: