วันนี้ (22 ตุลาคม) สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ไทกร พลสุวรรณ โพสต์ข้อความระบุว่า ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ บีบให้แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หากไม่ลาออกจะนำ 70 สส. ออกไปสังกัดพรรคใหม่นั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งเป็นการสร้างข่าวเท็จ และสร้างความเสียหายแก่ตนเอง และตระกูล โดยได้ปรึกษาพรรคแล้วจะตั้งทนายฟ้องร้องหมิ่นประมาท ซึ่งจะเป็นคดีอาญา และจะไม่มีการยอมความโดยเด็ดขาด
สุริยะกล่าวอีกว่า ตนเองเติบโตมาจากพรรคไทยรักไทย ซึ่งมี ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค และตนเองเป็นเลขาธิการพรรค จากนั้นได้ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ่งที่ได้รับความกรุณาจากแพทองธารในครั้งนี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนำ สส. ไปสังกัดพรรคอื่น ดังนั้น ยืนยันเป็นการใส่ร้าย และจะฟ้องร้องให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่า จะไม่มีการนำ สส. ไปที่ไหน แต่จะเป็นการเติมให้ครบ 200 คนมากกว่า ตามที่เคยประกาศไว้
สำหรับกรณีที่มีชื่อของ สุริยะ เป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ แทนแพทองธารนั้น หากมีการเสนอชื่อ พร้อมที่จะทำหน้าที่หรือไม่ สุริยะยืนยันว่า ส่วนตัวคงไม่พร้อม เพราะขณะนี้ต้องหาคนรุ่นใหม่ ที่มีความสามารถและเหมาะสม เพื่อนำพาพรรคไปสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง และย้ำว่าไม่ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ก็พร้อมสนับสนุน เพราะเชื่อว่าพรรคจะพิจารณาอย่างรอบคอบ และเป็นบุคคลที่จะนำพรรคไปให้ความหวังประชาชน ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในครั้งนี้ จะสามารถลบภาพของตระกูลชินวัตรได้หรือไม่ สุริยะยอมรับว่า คำว่าพรรคเพื่อไทยผูกพันกับตระกูลชินวัตร มาตั้งแต่อดีต และที่ผ่านมา ทักษิณเป็นผู้ตั้งพรรคไทยรักไทยมา และประชาชนให้การสนับสนุนมาตลอด เนื่องจากทำคุณูปการให้แก่ประเทศ และมีนโยบายสำคัญ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค จนเป็นที่พึงพอใจของประชาชน และต่อเนื่องมาสมัย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ลงเอยด้วยการปฏิวัติ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าตระกูลชินวัตรสร้างคุณูปการให้แก่พรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง
จากนี้ไปทราบว่า พรรคจะสรรหาบุคคลที่ไม่ใช่คนในกับตระกูลชินวัตร แต่ยังเป็นคนในพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าในการประชุม สส. พรรคนั้น แพทองธารได้ขึ้นกล่าวถึงเหตุผลการลาออก โดยมีแกนนำพรรคนั่งอยู่ข้างๆ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ซึ่งสีหน้าของแพทองธารและแกนนำต่างยิ้มแย้ม เมื่อประชุมเสร็จได้ร่วมกันถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก รวมถึงมาพูดคุยให้กำลังใจแพทองธารอีกด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการประชุมใหญ่ วิสามัญ เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารและหัวหน้าพรรคคนใหม่ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง หากมีการยุบสภาในอนาคตอันใกล้
