×

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ลงพื้นที่โกดังพลุระเบิดมูโนะ เตรียมประสานตำรวจมาเลเซียจับกุมเจ้าของโกดังมาดำเนินคดี พร้อมสอบจ่าฟาโรเอี่ยวส่วย

โดย THE STANDARD TEAM
02.08.2023
  • LOADING...
สุรเชษฐ์ หักพาล

วันนี้ (2 สิงหาคม) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางพร้อมด้วย พล.ต.ต. กฤษฎา แก้วจันดี และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุโกดังเก็บพลุระเบิด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตลาดมูโนะ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 สร้างความสูญเสียและเสียหายเป็นวงกว้าง 

 

โดย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้เดินสำรวจจุดเกิดเหตุที่เป็นซากปรักหักพัง ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า อย่างแรกสุดต้องขอแสดงความเสียใจที่เกิดเหตุครั้งนี้ขึ้น สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือการให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ และเอาผิดกับผู้กระทำผิด 

 

ล่าสุดได้ออกหมายจับสองสามีภรรยาแล้ว 2 ราย หลังจากที่ออกหมายเรียกให้มามอบตัวในวันที่ 1 สิงหาคม แต่ไม่ยอมมาตามหมายเรียก ซึ่งต้องเร่งรัดเอาผิดเพราะการจำหน่ายวัตถุไวไฟตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางมีกฎหมายควบคุมอยู่ ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย รวมถึงกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งต้องทำงานตรงไปตรงมา ใครเป็นผู้ออกใบอนุญาต ไม่มีแล้วทำได้อย่างไร ใครอนุญาต ต้องตรวจสอบว่าเป็นการอนุญาตโดยมิชอบหรือไม่ วันนี้เป็นการตั้งหลักเพื่อไล่จากต้นไปยังปลายทาง 

 

“อย่างไรก็ตาม จุดเกิดเหตุวันนี้เห็นกับตาว่าไม่สามารถจัดเก็บได้หรือตั้งได้เพราะเป็นเขตชุมชน เหตุที่เกิดจะต้องดูว่ามีการกำกับดูแลแล้วหรือยัง ใครละเว้นหน้าที่จนเกิดความเสียหาย ส่วนการเสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีกฎหมายพิเศษรองรับอยู่ ถ้าสูญเสียจากการบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้เสียชีวิตจะได้รับรายละ 5 แสนบาท” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว 

 

ส่วนสองสามีภรรยาซึ่งขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ที่มาเลเซีย ก็เป็นการติดตามเส้นทางนำเข้า ทราบมาแล้วว่ามาจากแหลมฉบัง ก็ต้องขยายผลต่อไป ส่วนความผิดของ 2 คนคือ ประมาทเป็นเหตุให้คนอื่นถึงแก่ความตาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตรวจสอบไปด้วยว่า 2 คนนี้เป็นเจ้าของจริงหรือไม่ หรือเป็นนอมินี แล้วถ้าเป็น มีใครอยู่เบื้องหลัง ต้องขยายผลกันต่อ รวมถึงขยายไปถึงการจ่ายภาษีด้วยเพราะขนจำหน่ายมาจากต่างประเทศ ส่วนชื่อตำรวจที่บอกว่ารับส่วยก็ต้องสอบสวนพร้อมให้ความเป็นธรรม อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน 

 

นอกจากนี้ยังมีการโยกย้าย 4 ตำรวจ สภ.มูโนะ เพื่อเปิดทางให้มีการสอบสวนเหตุโกดังดอกไม้เพลิงระเบิด ประกอบด้วย 

  1. พ.ต.อ. สุธาเวชช์ ธารีไทย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมูโนะ 
  2. พ.ต.ท. อาลี วาเด็ง รองผู้กำกับการปราบปรามสถานีตำรวจภูธรมูโนะ 
  3. พ.ต.ต. นเชษฐ์ มณีโชติ รองสารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรมูโนะ 
  4. พ.ต.ท. จรัญ อินทรา สารวัตรสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรมูโนะ 

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่า กรณีมีการพูดถึงเรื่องส่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจ่าฟาโรเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขาก่อน ถ้าตรวจสอบพบการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการทั้งหมด

 

สำหรับประเด็นที่ว่า นักการเมืองท้องถิ่นเกี่ยวข้องกับการรับส่วยหรือไม่นั้น จะต้องมาตรวจสอบและไล่ดูทั้งหมดก่อนว่า สองสามีภรรยาเป็นเจ้าของโกดังเก็บพลุดอกไม้จริงหรือไม่ หรือเป็นแค่นอมินี ถ้าเป็นเจ้าของจริงก็ดำเนินคดี หากไม่ใช่เจ้าของจริงก็ต้องมีการขยายผลต่อว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยหลักๆ ต้องมาดูว่าของเหล่านี้ขนโดยใครเข้ามาขาย ซึ่งพบว่ามีการขนมาจากท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และส่งจากมูโนะไปขายยังมาเลเซีย สิ่งสำคัญคือการเลี่ยงภาษีอากร ต้องตรวจสอบว่ามีการเลี่ยงภาษีหรือไม่ หากเลี่ยงก็เข้าข่ายการฟอกเงิน 

 

ซึ่งวันนี้ต้องตรวจสอบหมดทั้งประเทศว่ามีแบบนี้อีกที่ไหนบ้าง เราจะต้องเอาจริงเอาจังสักที เพราะจะเห็นว่าเหตุเกิดมหาศาล จะต้องไล่ทั้งหมดว่ามีกี่โกดัง การไม่ขออนุญาตมันผิดแน่นอน ตั้งมาได้อย่างไร ผู้มีหน้าที่ตรวจตราหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่ไม้จิ้มฟันที่จะมองไม่เห็น

 

“เราอย่าเพิ่งไปปักใจใคร จ่ามันเล็กไป จ่าแค่ปลายทาง ถ้า 5 หน่วยงานทำหน้าที่ดี แม้เหตุเกิดก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาไม่ทำหน้าที่แล้วเหตุเกิดอันนี้หนักกว่า ถ้าพบจ่าฟาโรทำผิดเราไม่ปกป้องแน่นอน” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ย้ายจ่าฟาโรให้ไปช่วยราชการนอกพื้นที่แล้ว ต้องดูว่าจ่าคนนี้ดำเนินการเพื่อใคร มีการเก็บผลประโยชน์จริงไหม ก็ต้องดำเนินคดี หากพบว่าไม่มีความผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรม

 

สำหรับสองสามีภรรยาเจ้าของโกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิดที่หลบหนีไปประเทศมาเลเซียนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้ประสานไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งการเอาตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยนั้นไม่ยาก และยังไม่ถึงขั้นต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน และหากผู้ต้องหาถือ 2 สัญชาติจริงก็ไปไกลได้แค่มาเลเซีย

 

“ผู้ต้องหาไปไหนไม่รอดหรอก เดี๋ยวผมจะประสานงานกับ ผบ.ตร. มาเลเซีย เพื่อเอาตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising