×

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ รับแนวทางทำงานด้านความมั่นคงจากนายกฯ ประเด็นเปิดฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน-ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ยกคดีอดีตกำนันนกเป็นตัวอย่างล้างบางมาเฟีย

โดย THE STANDARD TEAM
10.09.2023
  • LOADING...
ฟรีวีซ่า นักท่องเที่ยวจีน

วันนี้ (10 กันยายน) ที่บ้านพิษณุโลก พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี 

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์  กล่าวว่า นายกฯ ได้ให้แนวทาง 2 เรื่อง เรื่องแรกคือด้านการท่องเที่ยว ที่รัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งในส่วนของหน่วยงานความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มองว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางมาประเทศไทยเพราะมีขั้นตอนยากลำบากในการเข้าประเทศ ฉะนั้นการเปิดวีซ่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาที่ประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น 

 

โดยตำรวจจะมีการเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเน้นย้ำในส่วนด้านความปลอดภัยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเพื่อรองรับนโยบายนี้ ซึ่งจะทำให้โรงแรม ร้านค้า กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของไทย 

 

ส่วนอีกเรื่องที่นายกฯ เน้นย้ำและเป็นกังวล พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คือการปราบปรามมาเฟียและผู้มีอิทธิพล และให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายกฯ เน้นย้ำแนวทางให้มีการปราบปรามให้ถึงที่สุด รวมถึงเรื่องการฮั้วประมูลในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องคดีของประวีณ จันทร์คล้าย หรืออดีตกำนันนก ที่มีเงินเป็นพันล้านบาทภายในเวลาไม่กี่ปี และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ยืนยันว่าตนจะลงไปกำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และตำรวจต้องไม่เป็นไม้ค้ำยันให้ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ 

 

เมื่อถามว่านายกฯ ได้กำชับเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่  พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่า เรื่องคดีอดีตกำนันนก นายกฯ ให้สอบสวนให้ถึงที่สุด ส่วนจะมีการออกหมายเรียกตำรวจเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน หากสอบสวนแล้วพบว่ามีผู้กระทำผิดก็จะดำเนินการอนุมัติขอหมายจับต่อศาลและออกหมายจับต่อไป 

 

นอกจากนี้ในส่วนของทรัพย์สินของอดีตกำนันนกต้องมีการอายัดหรือไม่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการอายัดทรัพย์สิน เนื่องจากยังไม่เข้าข่ายความผิด ขณะนี้ได้เอกสารและข้อมูลส่วนใหญ่มารวบรวมไว้แล้ว โดยจะมีการสอบสวนเรื่องฮั้วประมูล หากพบว่ามีการฮั้วประมูลจริงก็จะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งจะใช้มาตรการยึดทรัพย์ได้ 

 

เมื่อถามว่าตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต้องรับผิดชอบหรือไม่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่าในหลักของกฎหมาย หากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การทำลายวัตถุพยานหลักฐาน ซึ่งในเหตุการณ์จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเกิดเหตุแล้ววิ่งหนี จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่แน่นอน 

 

กลุ่มที่สองคือกลุ่มร่วมทำลายพยานหลักฐาน และพาอดีตกำนันนกหนี และกลุ่มที่สามพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มนี้ ทั้งนี้ความชัดเจนเริ่มเห็นได้ชัดอย่างต่อเนื่อง

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่าตำรวจที่มีความเกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นตำรวจภูธรภาค 7 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ตำรวจทางหลวง) ซึ่งคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะพยานหลักฐานมีครบ เพียงแค่ตรวจสอบวงจรปิดและเส้นทางการเงิน คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะสอบสวนเสร็จสมบูรณ์ 

 

ประเด็นหลักในคดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วย แต่เป็นการขอตำแหน่งหน้าที่แล้วไม่ให้ จึงมีการสั่งยิง ยืนยันว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ซึ่งขณะนี้อดีตกำนันนกยังคงให้การปฏิเสธ แค่ตนขอยืนยันว่าอย่างไรก็ไม่มีทางหลุดรอดจากคดีนี้ ซึ่งวันนี้มีทั้งคำให้การยืนยัน พยานแวดล้อม อย่างไรก็ไม่มีทางหลุด ขณะนี้อดีตกำนันนกยังไม่ยื่นของประกันตัว 

 

“กำนันนกไม่มีทางหลุด คดีนี้ไม่ให้ตำรวจในพื้นที่ทำเพราะอาจมีการหลุดรั่ว ต้องทำให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างว่าใครทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลต้องเจอแบบนี้ ซึ่งวันนี้จะล้างให้หมด” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X