ความคืบหน้าหลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน ซึ่งเป็นกรณีของ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถาม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือทนายตั้ม ว่าได้ติดต่อกับ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ชุดสอบวินัยร้ายแรง พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ สอบพยานปากเอกเพิ่ม 5 คน ปมเส้นทางการเงินเว็บพนัน คาดเสร็จภายในวันนี้
- พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ไม่คาดหวังเป็น ผบ.ตร. หลังได้อาวุโสอันดับ 1 แทน พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ ที่พ้นรอง ผบ.ตร.
ษิทรากล่าวว่า ได้พูดคุยกันล่าสุดเมื่อประมาณ 10 วันที่แล้ว เป็นการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันตามปกติ ทั้งนี้ อดีตรอง ผบ.ตร. มีความเครียด แต่ท่านเป็นคนสู้ชีวิต เชื่อว่าจะหาทางกลับมา
เมื่อถามต่อว่า ได้คุยกันถึงแนวทางหลังจากนี้หรือไม่ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ษิทรากล่าวว่า ขอไม่ตอบผ่านสื่อ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ สามารถใช้สิทธิฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตนเอง หลังผลคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งจะต้องทำภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2567