‘ตั้งกรรมการสอบ เด้งฟ้าผ่า ถูกค้นบ้าน’ ล้วนเป็นเหตุการณ์ (อุปสรรค) ที่เกิดขึ้นมาตลอดในช่วงชีวิตการเป็นข้าราชการตำรวจของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล จนมาเหตุการณ์ล่าสุดกับการถูกร้องทุกข์กล่าวโทษฐาน ‘ผิดวินัยร้ายแรง’ กับป.ป.ช.จากการพบหลักฐานเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
THE STANDARD ชวนย้อนดูมรสุมชีวิตของรอง ผบ.ตร. เจ้าของฉายา ‘โจ๊กหวานเจี๊ยบ’ ที่ผ่านเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ แต่ก็ยังรอดกลับมาผงาดสู่แคนดิเดต ผบ.ตร. คนที่ 14 ได้ จนใครหลายคนอยากเปลี่ยนฉายาให้เป็น ‘แมว 9 ชีวิต’
ผลงานที่ทำให้หลายคนรู้จัก ‘พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล’ ยกตัวอย่างเช่น คดีแอม ไซยาไนด์, คดีคนไทยรับจ้างอุ้มบุญ, คดีมูลนิธิคุ้มครองเด็ก (บ้านครูยุ่น) ทำร้ายเด็ก-บังคับไปทำงานรีสอร์ต, ทลายเครือข่ายขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน, คดีทุนจีน และปัญหาบุกรุกที่ดินเกาะหลีเป๊ะ ฯลฯ
นอกจากนี้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังฝากผลงานการช่วยเหลือประชาชนอีกมากมายผ่านตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.)
ส่วนในเรื่องงานบริหาร ได้ผลักดันการแก้ประวัติอาชญากร ปรับปรุงระเบียบ ตร. ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ. 2566
เดือนมกราคม 2567 พ.ต.อ. กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ได้นำเอกสารสำคัญของคดีส่วยคาราโอเกะไปแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้รื้อคดีอีกครั้ง แม้ปัจจุบันคดีดังกล่าวจะเหลืออายุความเพียง 1 ปี หรือจะขาดอายุความไม่เกินปี 2568
ในปี 2563 พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล (ยศขณะนั้น) ยื่นฟ้อง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อศาลปกครอง กรณีออกคำสั่งย้ายโอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาศาลตัดสินไม่รับคำฟ้องและตีตกไป
กระทั่งเดือนมีนาคม 2564 ได้กลับมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สบ.9 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร. ตามลำดับ
ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ นอกจากการเด้งฟ้าผ่าให้หลุดจากตำรวจกลับมาเป็นแค่พลเรือนแล้ว ในช่วงก่อนหน้านั้นก็ถือว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ มีชีวิตที่รุ่งเรืองที่สุด เพราะถือเป็นมือขวารองนายกรัฐมนตรี ‘พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ ที่ดูแลรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง ด้วยหน้าที่นายตำรวจประสานงานใกล้ชิด
การบุกค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ‘เครือข่ายมินนี่’ โดยปรากฏว่า มีผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ 8 นาย มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหา
โดยมีหน้าที่บริหารจัดการเว็บพนันออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น จัดหาบัญชีม้า จัดการธุรกรรมการเงินและบัญชี รวมถึงรับผลประโยชน์จากบัญชีม้า
สำหรับกำลังตำรวจที่เข้าบุกค้นบ้าน นำโดยชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ 5 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
เป็นผลพวงจากมรสุมชีวิตลูกที่ 3 ของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล เพราะหลังมีการจับกุมผู้ใต้บังคับบัญชาไป ชุดพนักงานสืบสวนได้ทำการขยายผลทางคดีต่อจนพบหลักฐานที่เชื่อมโยงว่า อาจมีการใช้เงินจากบัญชีม้าของเครือข่ายเว็บพนันไปใช้จ่ายส่วนตัว
ที่ผ่านมา พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ และผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปรากฏชื่อเกี่ยวข้องทั้งหมด ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆ ในความผิดเว็บพนัน และไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์จากสิ่งผิดกฎหมายเหล่านั้น พร้อมออกมาโต้ตอบในทุกครั้งที่มีการเอ่ยถึง