วันนี้ (15 พฤศจิกายน ) สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกแถลงจุดยืนคัดค้านความพยายามของรัฐบาลในการขยายอายุสัมปทานโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) โดยชี้ว่าเป็นการสร้างภาระระยะยาวให้ประชาชนและเอื้อประโยชน์นายทุน
สุรเชษฐ์ตั้งคำถามถึงความพยายามของกระทรวงคมนาคมที่เตรียมลดค่าทางด่วนสูงสุดไม่เกิน 50 บาท เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ว่าจะเป็นของขวัญที่จะมาในปีใหม่นี้หรือจะเป็นภาระต่อลูกหลานในอนาคต พร้อมระบุว่า ความพยายามขยายสัมปทานนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว เพียงแต่เปลี่ยนตัวผู้บริหาร
สุรเชษฐ์กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะโฆษณาเรื่องการลดค่าทางด่วน แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการหาเรื่องขยายสัญญาสัมปทาน ซึ่งปัจจุบันจะสิ้นสุดในปี 2578 ให้ยืดออกไปถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2601 โดยแลกกับการพ่วงโครงการ Double Deck มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาทเข้ามาแบบไม่มีการประมูล
“ถ้าไม่มีสัมปทานตัวนี้ เราสามารถวิ่งฟรีได้ทุกวันด้วยซ้ำ” สุรเชษฐ์กล่าว
นอกจากนี้ การลดค่าทางด่วนให้ถูกลงยังย้อนแย้งกับนโยบายที่ต้องการให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และขัดกับหลักการผู้ใช้เป็นผู้จ่าย เพราะต้องนำเงินของทุกคนมาช่วยกันจ่ายค่าส่วนต่าง
ประธาน กมธ. ได้วิพากษ์วิจารณ์โครงการทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) โดยระบุว่า โครงการนี้ไม่ได้เพิ่มทางลงสู่พื้นราบ แต่เป็นการสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 ลงบนทางด่วนขั้นที่ 2 ที่รถติดอยู่แล้ว เปรียบเสมือนการเพิ่มพื้นที่จอดรถบนอากาศ ซึ่งโครงการนี้มีต้นทุนสูงถึงกิโลเมตรละ 2,047 ล้านบาท และจะทำให้นายทุนได้รับงานไปแบบไม่มีการแข่งขัน หากมีการเซ็นสัญญาสัมปทาน
สุรเชษฐ์ได้ย้ำจุดยืนของพรรคประชาชนในการคัดค้านการขยายสัมปทานอย่างมีเหตุผล 4 ข้อ คือ 1. ไม่คุ้มค่า 2. ไม่โปร่งใส 3. ไม่ดีจริง และ 4. ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลนี้
พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากข้าราชการว่า มีวาระลับเรื่องการขยายสัมปทานเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 68 จึงเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (ส.ค.ร.) ออกมาชี้แจงมติในเรื่องนี้ทันทีหากหลุดจากบอร์ดนี้ ทางฉลุยเข้า ครม. เลย หากเราเงียบ มันเอาแน่ ชงเข้า ครม. แน่
พรรคประชาชนจึงมีข้อเสนอให้รัฐบาล หยุดหาเรื่องขยายสัมปทาน และเน้นการแก้ปัญหารถติดให้ถูกจุด ควรรอให้รัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งตัดสินใจในโครงการใหญ่ที่มีผลกระทบถึงปี 2601 นี้
