×

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือ ผบช.ไซเบอร์ ร้องถูกเลือกปฏิบัติ-แยกคดีซ้ำซ้อน ชี้พยายามเอาผิดให้ถูกไล่ออก

โดย THE STANDARD TEAM
17.11.2025
  • LOADING...
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือ ผบช.ไซเบอร์ ร้องถูกเลือกปฏิบัติ-แยกคดีซ้ำซ้อน ชี้พยายามเอาผิดให้ถูกไล่ออก

วันนี้ (17 พฤศจิกายน) ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท. สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ (ผบช.สอท.)

 

เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการทำงานของพนักงานสอบสวน โดย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ อ้างว่า ตนเองและลูกน้องถูกเลือกปฏิบัติในการดำเนินคดี และมีการพยายามแยกคดีออกมาดำเนินคดีซ้ำใหม่ ทั้งที่คดีดังกล่าวเข้าข่ายอำนาจการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.)

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ชี้แจงถึงปัญหาในขั้นตอนการออกหมายจับลูกน้อง 8 นาย โดยระบุว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งต่อศาลว่าผู้ถูกออกหมายจับเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ระบุอาชีพเป็นรับจ้างค้าขาย และไปยื่นขอหมายจับที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งตามหลักแล้ว หากผู้ถูกออกหมายจับเป็นตำรวจ ต้องยื่นต่อศาลอาญาทุจริตกลาง

 

นอกจากนี้ การสอบสวนของชุดทำงานเดิมพบว่า พ.ต.ท. คริษฐ์ เป็นผู้ใช้บัญชีม้า 6 บัญชี รับผลประโยชน์จากเว็บพนันเพียงผู้เดียว ซึ่งตามกฎหมายถือเป็นบัญชีที่เกี่ยวเนื่องกันและมีวัตถุประสงค์เดียวกัน ดังนั้น ตามหลักการสอบสวน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 19 และ พ.ร.บ. ป.ป.ช. มาตรา 30 กำหนดให้ต้องดำเนินการสอบสวนในคราวเดียวกัน จึงไม่สามารถแบ่งแยกหรือฟ้องซ้ำได้

 

อย่างไรก็ตาม ตนและลูกน้องกลับถูกแยกออกหมายจับ และแม้ ป.ป.ช. จะรับสำนวนไปแล้ว ก็ยังมีการนำหนึ่งในบัญชีม้าเดิมมากล่าวหาตนที่ สน.เตาปูนอีก เพื่อหาเหตุออกหมายจับและนำไปสู่การถูกไล่ออกจากราชการ ซึ่งควรดำเนินคดีที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพียงคดีเดียว

 

อดีต รอง ผบ.ตร. ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความล่าช้าในการส่งสำนวนคดีของตนไปยัง ป.ป.ช. ซึ่งใช้เวลากว่า 290 วัน ก่อนถูกส่งหลังตนถูกไล่ออกจากราชการแล้ว ซึ่งแตกต่างจากคดีของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. ที่มีการเร่งส่งสำนวนภายใน 30 วัน

 

จากการทำหนังสือสอบถามไปยัง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับคำตอบว่าคดีของตนอยู่ในอำนาจสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากมีการออกหมายจับแล้ว

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุว่า การดำเนินการทางวินัยและไล่ออกจากราชการตนเป็นการดำเนินการแบบ หลายมาตรฐาน และได้ทำให้สังคมเห็นว่า ตำรวจและตำรวจไซเบอร์บางส่วนมีการเรียกรับผลประโยชน์ (รับส่วย) จริง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เว็บพนันและสแกมเมอร์ระบาดหนัก พร้อมทั้งตั้งคำถามไปยัง ผบ.ตร. ในประเด็นที่ระบุว่ามีตำรวจที่เรียกรับผลประโยชน์เพียง 1%

 

นอกจากนี้ ตนยังสืบทราบว่า กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ 1 ได้เสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ดำเนินคดีกับตนซ้ำอีกครั้ง โดยใช้เส้นเงินจากบัญชีม้าเดิม ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมาย จึงต้องรีบยื่นหนังสือต่อ ผบช.สอท. และทำหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อป้องกันไม่ให้มีการดำเนินคดีซ้ำซ้อน โดยยืนยันว่าตนไม่ได้ปฏิเสธความผิด แต่ต้องการให้มีการดำเนินการในมาตรฐานเดียวกัน

 

สุดท้ายนี้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้แสดงความเห็นต่อกรณีการปฏิญาณตนของตำรวจหน้าเสาธงว่า หากเป็นคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจริง ก็อยากให้มีการแก้ปัญหาด้วยการออกไปปราบปรามสแกมเมอร์และเว็บพนันอย่างจริงจังมากกว่า

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือ ผบช.ไซเบอร์ ร้องถูกเลือกปฏิบัติ-แยกคดีซ้ำซ้อน ชี้พยายามเอาผิดให้ถูกไล่ออก 1
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือ ผบช.ไซเบอร์ ร้องถูกเลือกปฏิบัติ-แยกคดีซ้ำซ้อน ชี้พยายามเอาผิดให้ถูกไล่ออก 2
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือ ผบช.ไซเบอร์ ร้องถูกเลือกปฏิบัติ-แยกคดีซ้ำซ้อน ชี้พยายามเอาผิดให้ถูกไล่ออก 3
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือ ผบช.ไซเบอร์ ร้องถูกเลือกปฏิบัติ-แยกคดีซ้ำซ้อน ชี้พยายามเอาผิดให้ถูกไล่ออก 4
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือ ผบช.ไซเบอร์ ร้องถูกเลือกปฏิบัติ-แยกคดีซ้ำซ้อน ชี้พยายามเอาผิดให้ถูกไล่ออก 5

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising