31 กรกฎาคม ศาลฎีกาเลื่อนอ่านคำพิพากษา คดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ บ้านพักของ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 โดยวันนี้ วีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้ตัวแทนยื่นหนังสือขอเลื่อน พร้อมใบรับรองแพทย์ว่าป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งศาลพิจารณาแล้วจึงให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไป และนัดอ่านคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 23 กันยายน เวลา 09.00 น.
คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพรุจ หรือ นพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, วีระศักดิ์ เหมะธุลิน, วันชัย นาพุทธา, วีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., วิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ และ นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 138 วรรคสอง, 215, 216, 297, 298 ประกอบมาตรา 33, 83 และ 91
กรณีเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคนจากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่จากสนามหลวงไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ใช้ไม้เสาธงตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ. ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 ให้จำคุก นพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ฯ ส่วนวีระกานต์, ณัฐวุฒิ, วิภูแถลง และนพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี 4 เดือน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายฯ และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฯ และให้ยกฟ้องวีระศักดิ์และวันชัย จำเลยที่ 2-3 พร้อมให้ริบของกลางทั้งหมด
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสาม, มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม เพียงกรรมเดียว จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน นอกเหนือจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วน นพรุจ จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญาทั้งหมด