วันนี้ (22 สิงหาคม) เมื่อเวลา 10.40 น. พ.ต.อ. คมวุฒิ จองบุญวัฒนา ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานกรุงเทพ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้นำบุคคลตามหมายจับมาส่งต่อศาล
ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ทั้งสามคดียืนยันว่าบุคคลที่อยู่ต่อหน้าศาลเป็นจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดี
จำเลยหรือจำเลยที่ 1 รับว่าเป็นจำเลยในคดีทั้งสาม
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตรวจสอบบุคคลที่อยู่ต่อหน้าศาลแล้วเป็นจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดี ดังนี้
- คดีหมายเลขดำที่ อม.3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 (คดีทุจริตปล่อยกู้ EXIM BANK) ระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ พ.ต.ท. ทักษิณ หรือทักษิณ ชินวัตร จำเลย
- คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 (คดีหวยบนดิน) ระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทฺจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ พ.ต.ท. ทักษิณ หรือทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 47 คน จำเลย
- คดีหมายเลขดำที่ อม.9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 (คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป) ของศาลนี้ ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ พ.ต.ท. ทักษิณ หรือทักษิณ ชินวัตร จำเลย
จึงรับตัวจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดีดังกล่าวไว้
ศาลได้แจ้งให้จำเลยหรือจำเลยที่ 1 ทราบคำพิพากษาแล้ว โดยคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 ลงโทษจำคุก 3 ปี, คดีหมายเลขดำที่ อม.1 /2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 ลงโทษจำคุก 2 ปี และคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ลงโทษจำคุกรวม 5 ปี นับโทษจำคุกของจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 และต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552
ศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในแต่ละคดีแล้ว
มีรายงานว่าสำหรับการนับโทษต่อคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 และคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ให้นับโทษต่อ (คดีที่ 1 = 3 ปี, คดีที่ 2 = 2 ปี นับโทษซ้อนกัน) แต่ให้นับโทษต่อคดีหมายเลขดำที่ อม.9/2551 จึงรวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี