วันนี้ (13 มีนาคม) สำนักประธานศาลฎีกา ออกเอกสารข่าวแจกสื่อมวลชน ระบุว่า สุรินทร์ ชลพัฒนา เลขาธิการประธานศาลฎีกา เปิดเผยว่า ไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกามีดำริว่า เนื่องจากที่ผ่านมานับแต่ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จสิ้นกว่าที่ศาลชั้นต้นจะอ่านคำพิพากษาให้จำเลยฟังจะต้องผ่านขั้นตอนในการส่งสำนวนและซองคำพิพากษาศาลฎีกาผ่านทางระบบสารบรรณของแต่ละศาล และศาลชั้นต้นจะต้องนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาและส่งหมายให้คู่ความทุกฝ่ายทราบ ตลอดจนรอผลการส่งหมาย กว่าจะพร้อมอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาก็อาจใช้เวลานานหลายเดือน ซึ่งหากผลคำพิพากษาศาลฎีกาทำให้จำเลยได้รับการปล่อยตัวหรือได้รับประโยชน์จากหมายจำคุกคดีถึงที่สุด ก็จะทำให้จำเลยเสียโอกาสเหล่านั้นไปในช่วงเวลาดังกล่าว
ดังนั้นจึงเห็นควรให้ศาลฎีกาเตรียมความพร้อมสำหรับการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาผ่านระบบการสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) ในคดีบางประเภทที่เห็นสมควรให้คู่ความทราบผลคำพิพากษาโดยเร็ว เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของจำเลยที่ถูกคุมขังในระหว่างการพิจารณาคดี อันเป็นการลดขั้นตอนในการส่งคำพิพากษาศาลฎีกาไปยังศาลชั้นต้นและลดขั้นตอนการส่งหมายตามวิธีปกติ ซึ่งจะทำให้จำเลยที่ถูกคุมขังในระหว่างรอการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาได้รับการปล่อยตัวและไม่ต้องถูกคุมขังระหว่างการส่งคำพิพากษาศาลฎีกาไปยังศาลชั้นต้นหรือได้รับประโยชน์ตามหมายจำคุกถึงที่สุดโดยเร็ว ซึ่งแต่เดิมจะต้องรอขั้นตอนการส่งหมายต่างๆ เป็นเวลานาน
ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับศาลชั้นต้นทั่วราชอาณาจักร โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า