×

สุพัฒนพงษ์หวังเศรษฐกิจไทยโต 4% เร่งปรับโครงสร้างประเทศ-โครงสร้างภาษี ให้นักลงทุนเข้าถึงง่าย

05.03.2021
  • LOADING...
สุพัฒนพงษ์หวังเศรษฐกิจไทยโต 4% เร่งปรับโครงสร้างประเทศ-โครงสร้างภาษี ให้นักลงทุนเข้าถึงง่าย

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แนวโน้มของเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นแล้ว เห็นได้จากความมั่นใจใน 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้น และยังมองว่า GDP ไทย ยังควรเติบโตที่ 4% 

 

ทั้งนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า จึงต้องมีการออกมาตรการประคับประคองเศรษฐกิจไทย เช่น เราชนะ, เรารักกัน, เราเที่ยวด้วยกัน และยังต้องออกมาตรการเพิ่มเติมในปีนี้ โดยเฉพาะ SMEs ที่ยังบอบช้ำ จะมี 2 มาตรการเพิ่มเติม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย  ได้แก่ 

 

  • การแก้ พ.ร.บ. Soft Loan อาจจะปรับระยะเวลาเป็น 5 ปี จากเดิมที่อยู่ 2 ปี รวมถึงต้องดูว่าจะปรับข้อกำหนดให้ครอบคลุมเงินทุนหมุนเวียน เพิ่มการจ้างงาน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้  
  • Asset Warehousing (โกดังแก้หนี้) จะช่วยคนที่ยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่อาจอยู่ในธุรกิจที่ยังต้องรอการฟื้นตัวจากเศรษฐกิจ เช่น โรงแรม โดยให้ภาคธุรกิจนำทรัพย์มาฝากไว้ก่อนเพื่อพักหนี้สินเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นสามารถนำออกจากกองทุนได้โดยไม่มีภาระ  

อย่างไรก็ตาม ในด้านการเปิดประเทศยังขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนทั่วโลกและติดตามสถานการณ์ทั่วโลก ขณะนี้ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังออกมาตรการ กติกา และคำแนะนำ ในการเปิดประเทศ เช่น สายการบินจะดูแลเรื่องความปลอดภัยผู้โดยสารอย่างไร 

 

นอกจากนี้ส่วนสำคัญคือเศรษฐกิจไทยต้องปรับโครงสร้าง เพราะ 10 ปีที่ผ่านมา โครงสร้างอุตสาหกรรมไทยเหมือนเดิมมาตลอด โดยหลังโควิด-19 ก็ค่อนข้างตกผนึกแนวทาง โดยแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่

 

  1. Digitalization แนวทางการพัฒนาดิจิทัล โดยไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีพอสมควร และจะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น AI, 5G, Cloud Service และ Data Center

 

  1. Decarbonization การลดก๊าซเรือนกระจกที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังดำเนินแนวทางนี้อยู่ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (เช่น ธุรกิจรถ EV)

 

  1. Derisk การปรับเปลี่ยนโครงสร้างทรัพยากรและกระบวนการทำงาน โดยธุรกิจไทยแข็งแกร่งในด้านอาหาร และจุดที่ต้องไป เช่น Medical Tech

 

  1. Decentralization การกระจายความเสี่ยง ปัจจุบันเห็นหลายอุตสาหกรรมในจีนหันมากระจายเปิดโรงงานแห่งที่ 2 ในประเทศอื่นๆ 

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังต้องเดินหน้าการขยาย 12 อุตสาหกรรมใหม่ โดยส่วนที่เราแข็งแกร่งอยู่แล้ว เช่น เกษตร อาหาร ฯลฯ และมีอีก 4 เซกเตอร์ที่ต้องเน้น เช่น ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV), Smart Electronic ซึ่งตอนนี้มีผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจยื่นความจำนงมาในไทยแล้ว, Medical Tech และ Digital

 

“EV ไทย มีฐานการผลิตเดิมอยู่แล้ว และตอนนี้มี 2 บริษัทรถของจีนที่เน้นเรื่องการทำ EV และมาปักหมุดลงทำฐานการผลิตในไทยแล้ว”

 

ทั้ง 4 อุตสาหกรรมใหม่นี้ยังต้องแข่งขันกับทั่วโลก เพราะทุกฝ่ายล้วนให้ความสนใจกัน ดังนั้นไทยต้องปรับปฏิบัติการเชิงรุก และเรื่อง Ease of Doing Business เพื่อดึงดูดความน่าสนใจนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาในไทยมากขึ้น เช่น การปรับเรื่องวีซ่าสำหรับผู้มีความสามารถที่เข้ามาทำงานในไทย รวมถึงไทยต้องทำให้สำนักงานภูมิภาคเกิดขึ้น ผ่านการออกแบบโครงสร้างภาษีให้สะดวกยิ่งขึ้น

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising