กลายเป็นประเด็นร้อนที่สร้างความกังวลใจให้กับคนทั้งประเทศ หลังจากที่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 มีนาคม มีการรายงานตัวเลขการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งพบว่าต่ำกว่าปีก่อนถึง 6.8% ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาอีกครั้งว่า รัฐบาลกำลังอยู่ในภาวะถังแตกหรือไม่
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลถังแตกและเตรียมจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ว่ายังไม่เห็นสัญญาณว่ารัฐบาลจะถังแตกแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สุพัฒนพงษ์ยอมรับว่า ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม มีการรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปี ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มีความกังวลใดๆ ส่วนความเสี่ยงก็ถือเป็นปกติของการรายงานประจำปี เช่นเดียวกับการรายงานประจำปีของบริษัทเอกชนทั่วไปจะมีการกล่าวถึงความเสี่ยงต่างๆ แต่ถือเป็นเรื่องธรรมดา
“เป็นการพูดถึงการใช้เงินในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาเพราะเป็นข้อเท็จจริง และในที่ประชุมมีการพูดถึงรายได้การจัดเก็บภาษีในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน เพราะจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การจัดเก็บรายได้ลดลงไป”
สุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ในบทสุดท้ายของการรายงานความเสี่ยง มีการคำนวณตัวเลขความเสี่ยงออกมาที่ระดับ 2.47 ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่สูงมาก และเชื่อได้ว่าในอีก 2 ปี ความเสี่ยงวิกฤตทางการคลังจะค่อนข้างต่ำ และย้ำว่าเรื่องการขึ้นภาษี โดยส่วนตัวคิดว่าในเร็วๆ นี้ยังไม่มี และในที่ประชุมก็ไม่ได้มีข้อเสนอแนะในเรื่องนี้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ครม. กังวลใจ คือ จำนวนผู้ที่อยู่ในระบบภาษียังมีน้อย จึงอยากให้กระทรวงการคลังไปศึกษาโครงสร้างระบบภาษีที่จะดึงดูดให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษี โดยให้เกิดความเข้าใจถึงประโยชน์ของการเข้ามาอยู่ในระบบภาษี เช่น การได้ช่วยเหลือประเทศ และเงินภาษีกลับมาถึงมือประชาชน รวมถึงการศึกษาโครงสร้างภาพรวมด้านภาษี
“แปลกใจว่า กลายเป็นดูเหมือนจะไปขึ้นภาษีบ้าง ถังแตกบ้าง ยืนยันว่าไม่มีสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น” สุพัฒนพงษ์กล่าวทิ้งท้าย