วานนี้ (18 มกราคม) ศุภชัย ใจสมุทร รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด รัฐสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ในหัวข้อ ‘กัญชาเสรีถูกหรือผิดกฎหมาย?’ ผ่านสำนักข่าว THE STANDARD โดยกล่าวว่า ในมุมมองของตนเองและนักกฎหมายอีกหลายท่าน อาทิ วิชา มหาคุณ เห็นว่า กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 แล้ว เพราะประมวลกฎหมายใหม่ไม่ได้ระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติด แต่ในขณะเดียวกันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) หรือนักกฎหมายท่านอื่นยังบอกว่ากัญชาเป็นยาเสพติดอยู่ นั่นก็เป็นประเด็นที่ยังไม่เป็นข้อยุติ และสิ่งที่รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ได้ออกมาเคลื่อนไหวนั้น ตนเองรู้สึกยินดี เท่ากับว่ารัฐบาลให้ความสนใจและให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ถ้าถามผมผมก็บอกว่า สิ่งที่ท่านบอกว่าให้ชะลอการปลูกไว้ก่อน คำพูดที่ท่านพูดมาไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร เพราะว่าการชะลอให้ปลูกก็คืออย่าเพิ่งปลูก เพราะไม่มีใครปลูก ก็ไม่มีใครจับ แต่คำถามที่ท่านบอกว่าก่อนหน้านี้ที่เขาปลูกและถูกจับไปแล้ว ที่ปลูกไปแล้วยังไม่ถูกจับนี่ท่านได้สั่งให้ชะลอการจับไว้ด้วยหรือเปล่า ก็อยากจะบอกว่าวันนี้ท่านต้องมีหน้าที่ที่จะดูแลสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนอยู่ เพราะมีคนติดต่อผมมาจนถึงวันนี้มี 18 คดีแล้ว”
ศุภชัยกล่าวต่ออีกว่า สำหรับกรณีที่ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส. จังหวัดพัทลุง กล่าวว่าตนมีการตีความผิดนั้น คนที่กำลังออกมาถกหรือมาดีเบต คนที่เป็นกรรมาธิการร่างกฎหมายมีตนคนเดียว รู้เจตนารมณ์ของกฎหมาย อีกทั้งรู้เรื่องแนวนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่จะไม่ให้กัญชาเป็นยาเสพติด และต้องการส่งเสริมให้เป็นประโยชน์ในทางการแพทย์และทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นนโยบายที่นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงต่อรัฐสภา คือจะส่งเสริมเรื่องกัญชา นี่คือที่มาที่ทำไมประมวลกฎหมายยาเสพติดจึงไม่มีกัญชาอยู่ อย่างไรก็ตาม ตอนที่ผ่านประมวลกฎหมายยาเสพติด คะแนนที่ได้มาไม่มีใครลงมติไม่เห็นด้วยเลยสักคน เป็นศูนย์คะแนน และในช่วงที่มีการร่างกฎหมาย ตอนพิจารณาร่างกฎหมายคณะกรรมาธิการไม่มีกรรมาธิการท่านใดสงวนความเห็นขอเพิ่มคำว่า ‘กัญชา’ เข้าไปในยาเสพติดประเภท 5 ในมาตรา 29 และไม่มีสมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส. และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ท่านใดที่เสนอแปรญัตติขอแก้เลย เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องพูดตรงๆ ว่ามีเรื่องของ Hidden Agenda อยู่
ขณะที่ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) บอกว่า สิ่งที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดจะพิจารณาในบัญชียาเสพติดแต่ละประเภทตามมาตรา 29 ที่นอกเหนือจากมาตรา 29 ทุกประเภทคือ ประเภท 1-5 โดยในประเภท 5 สิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันคือคำว่า ‘พืชฝิ่น’ ซึ่งไม่มีคำว่ากัญชาอยู่ แต่หลังจากนั้นก็จะมีเพิ่มอีก 2 อย่าง คือ
- สารสกัดจากกัญชาหรือกัญชงที่มีค่า THC เกิน 0.2% อันนี้คือที่สกัดกัญชาภายในประเทศ แต่ถ้านอกประเทศคือห้ามหมด
- เห็ดขี้ควาย เห็ดเมา โดยคณะกรรมการจะพิจารณาแค่นี้ และกระทรวงสาธารณสุขจะพิจารณาโดย อย. เสนอเข้าคณะกรรมการนี้ หลังจากนี้เสนอไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายกฯ เป็นประธาน อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่านายกฯ เป็นผู้แถลงต่อรัฐสภาเอง ซึ่งมีทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ว่าจะสนับสนุน ‘กัญชา’ และยังเชื่อว่ากัญชาก็จะถูกปลดออกจากการเป็นยาเสพติด
ศุภชัยกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เตรียมจะเสนอกฎหมาย 1 ฉบับ เป็นพระราชบัญญัติชื่อ พระราชบัญญัติกัญชา กัญชง เหมือนกับกระท่อม หลังจากที่กระท่อมออกมาจาก พ.ร.บ.ยาเสพติด ปี 2522 แล้ว ทางกระทรวงยุติธรรมก็ได้เสนอพระราชบัญญัติพืชกระท่อมขึ้นมา พระราชบัญญัตินั้นก็จะมีเรื่องของกระท่อมว่าใครปลูกได้หรือปลูกไม่ได้ โดยเรื่องที่ตนจะเสนอนั้นก็จะกำหนดว่า ร่างฉบับนี้จะบอกว่าถ้าประชาชนปลูกใช้ในครัวเรือนต้องขออนุญาตหรือไม่ ซึ่งจะบอกว่าไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่ไปจดแจ้งกับท้องถิ่นให้ทราบว่าในครัวเรือนมีการปลูกกัญชาและปลูกกี่ต้น แต่ถ้าเป็นเชิงพาณิชย์ เชิงอุตสาหกรรม หรือเชิงค้าขายขนาดใหญ่ ต้องขออนุญาตทั้งหมด
“สำหรับเรื่องที่จะปลูก 6 ต้นนั้นต้องบอกว่าวันนี้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่เป็นเรื่องที่เราไม่ได้บอกว่าจะต้องปลูกเท่าไรก็ได้ แต่ผมบอกว่าวันนี้ในบทร่างกฎหมายที่ผมจะเสนอผมจะบอกว่าจะไม่เสนอในนามพรรคภูมิใจไทย แต่จะชวนเพื่อนสมาชิก ส.ส. ซึ่งเห็นพ้องต้องกันกับผม ไม่ว่าจะเป็นทั้งฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ผมเชื่อมั่นว่ามีคนพร้อมที่จะเสนอชื่อให้กับผมเป็นร้อยคน ตรงนี้ไม่ได้กำหนดว่าครัวเรือนเหมาะสมควรจะปลูกสัก 10 ต้น หรือ 15 ต้น ก็ว่ากันไป แต่หลักคือไม่ต้องขออนุญาต เพราะจะปลูกมาไว้ใช้เป็นยาในการรักษาโรคหรือไว้สำหรับทำอาหาร ปลูกไว้หลังบ้านก็เป็นสิทธิของคุณ นี่คือเราจะต้องไปให้ถึงตรงนั้น”
อย่างไรก็ดี นโยบายกัญชาเป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทยและกฎหมายที่ภูมิใจไทยผลักดันมา เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อ 35 วันที่แล้ว (ผลบังคับใช้วันที่ 9 ธันวาคม 2564) เพราะฉะนั้นตนจึงมาตามสถานการณ์ของเวลา เมื่อยังได้ยินว่ามีคนถูกดำเนินคดีจึงมาดำเนินการ สิ่งที่ตนในฐานะผู้แทนราษฎรมีหน้าที่ปกป้องพี่น้องประชาชน คนยากคนจน และจะนำกลุ่มกัญชาที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาอยู่บนโต๊ะ โดยเชื่อว่าทุกฝ่ายก็พร้อมที่จะมาอยู่อย่างถูกกฎหมาย เพราะทุกคนเป็นมืออาชีพ