คอนเสิร์ต ‘Sunday Lunch & Live’ ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เกิดจากแนวคิดของ ‘หนุ่มเมืองจันท์ – สรกล อดุลยานนท์ กับ สุพจน์ ธีระวัฒนชัย’ ผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เป็นคอนเสิร์ตที่จัดในเวลาเที่ยงของวันอาทิตย์ เริ่มในเวลา 11.00 น. และจบราว 15.30 น. ผู้ชมที่ไปได้ทั้งดื่มเบียร์สด ทานอาหารอร่อย ร่วมสนุกกับกิจกรรมบนเวที และได้ฟังคอนเสิร์ตจากศิลปินที่ชื่นชอบ
ในหนแรกนี้คือ ‘แอม เสาวลักษณ์’ ตำนานดีว่าส์ของเมืองไทย และในหนต่อไปที่เริ่มขายบัตรแล้ว คือ ‘มอส ปฏิภาณ-ทาทายัง’ ศิลปินร่วมยุคที่มีเพลงดังเพลงแดนซ์นับไม่ถ้วน โดยจะจัดขึ้น ในมื้อเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 นี้ และเริ่มขายบัตรตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ธรรมชาติของโรงเบียร์ และสถานบันเทิงยามค่ำ คือคนจะแน่นหนาทุกวัน ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และเงียบเหงาในคืนวันธรรมดา มื้อเที่ยงวันอาทิตย์ จึงเป็นช่องว่างที่ทั้ง ‘สรกล-สุพจน์’ หยิบยกมาเป็นจุดขายของคอนเสิร์ต ‘Sunday Lunch & Live’ ในโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
เป็นการเปลี่ยนตารางวันหยุดของคนอยากสนุกแต่ไม่อยากดึก เปลี่ยนความเงียบเหงาของโรงเบียร์ในมื้อเที่ยงวันอาทิตย์เป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของความบันเทิงที่คงจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับแต่นี้ เหมือนที่หนุ่มเมืองจันท์ ทำสำเร็จมาแล้วใน Wednesday Song ที่โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ
Sunday Lunch & Live แบ่งเวลาเป็น 3 ช่วง
- เริ่มกิน เริ่มดื่ม ในเวลา 11.00 น.
- สนุกกับดีเจจัดรายการสดๆ วงเล่นสดๆ ในเวลา 13.00 น.
- สนุกกับศิลปินที่คุณคุ้นเคยในเวลา 14.00 น. และจบคอนเสิร์ตในเวลา 15.30 น.
เที่ยงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ‘แอม-เสาวลักษณ์’ ตำนานดอกไม้เหล็กของวงการดนตรีไทย ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย เธอหยิบยกบทเพลงทั้งของตัวเอง และคนอื่น มาขับร้องอย่างไพเราะ ทั้ง ครึ่งหนึ่งของชีวิต, เธอปันใจ, ทางเดินแห่งรัก, กดดัน, แค่เสียใจไม่พอ, ทนได้ทุกที, ไม่เคย, ความทรงจำ รวมถึงชุดเพลงแดนซ์ต่อเนื่อง แต่ที่พิเศษสุด คือการขับร้องเพลง ขอจันทร์ ของ “วิยะดา” และสุดฤทธิ์สุดเดชของ “ใหม่ เจริญปุระ” ซึ่งเธอเล่าว่า เป็นเพลงที่เธอแต่งสมัยเป็นนักแต่งเพลงที่แกรมมี่ โดยใช้นามปากกาอย่าง อิงเมือง เกิดสา, สินนัทที และ พิรีย์ ก่อนมาเป็นนักร้องในที่สุด
งานครั้งแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี บัตรเต็มทุกที่นั่ง บรรยากาศในงานคึกคัก จากนั่งกิน นั่งฟังเงียบๆ ไปจนถึงยืนเต้น ยืนร้อง พร้อมกันทั้งงาน และเมื่อเปิดจำหน่ายบัตรครั้งต่อไป ก็มีกดจองในทันที
Sunday Lunch & Live เป็นการมาพบกันของ 2 สิ่ง จากคน 2 คน อย่างแรกคือการเห็นช่องว่างของความบันเทิงที่รอการเติมเต็ม ตรงนี้ต้องชมหนุ่มเมืองจันท์ที่เขาทำสำเร็จมาแล้ว ทั้งคอนเสิร์ตพุธค่ำและคอนเสิร์ตอาทิตย์เที่ยง อย่างที่สองคือความพร้อมในทุกมิติของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ตรงนี้ต้องชมทั้ง ‘สุพจน์-เสถียร’ ที่สร้างโรงเบียร์แห่งนี้ขึ้น ตั้งแต่ปี 2542 ด้วยวิธีคิดและการลงทุนที่ไม่เหมือนใคร
‘สรกล-สุพจน์’ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ในรุ่นเดียวกันนี้ ยังมี ‘ป๋าต๋อย’ แห่งไทยรัฐ และ ‘ซุปเปอร์จี’ แห่งเครือดุสิตธานี และกระทรวงพาณิชย์
‘หนุ่มเมืองจันท์-สรกล’ ได้รับความนิยมอย่างมาก จากการวิเคราะห์การเมืองไทยในเวลานี้ ทั้งที่ผ่านข้อเขียน และจัดรายการโทรทัศน์-ออนไลน์ ผู้อ่าน และผู้ชมพยักหน้าตามช้าๆ กับหลายๆ ข้อเสนอของสรกล นี่คือความสามารถในการเข้าใจและอ่านสังคมไทยออก เช่นเดียวกับที่เขาอ่านช่องว่างทางการตลาดความบันเทิงได้ขาด และขับเคลื่อนให้คอนเสิร์ตพุธค่ำและคอนเสิร์ตอาทิตย์เที่ยง จุดติดขึ้นมาในปฏิทินความบันเทิงไทย
หนุ่มเมืองจันท์ เคยเล่าถึง ‘สุพจน์’ เพื่อนคนนี้ไว้ว่า “สุพจน์เป็นคนที่คลั่งไคล้ในเรื่องธุรกิจร้านอาหารและการบริหารอย่างยิ่ง… ทุกครั้งที่พูดถึง อาหาร ครัว บริการ นัยน์ตาเขาจะเป็นประกาย เล่าแบบเจาะลึกถึงรายละเอียดแบบคนรู้จริง-ทำจริง สนุกสนานและละเอียดยิบ ผมชอบเรียกเขาว่า สุพจน์ ยิบ เลียนแบบ สุทธิชัย หยุ่น”
เมื่อโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง กลายสภาพเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต มันจึงเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ เพราะมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนอยู่แล้ว ทั้งความสะดวกของการเดินทาง ลานจอดรถ โต๊ะ-ที่นั่ง เวที อาหาร เบียร์สด ระบบเสียง การบริการ ทั้งหมดนี้เป็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ ‘เสถียร เศรษฐสิทธิ์-สุพจน์ ธีระวัฒนชัย’ สองขุนพลผู้สร้างอาณาจักรโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
สุพจน์เล่าถึงไอเดียหลังโรงเบียร์แห่งนี้ไว้หนังสือ ‘เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม’ ที่ตีพิมพ์โดย สำนักพิมพ์มติชน ว่า “พี่เสถียรเป็นคนโพล่งคำพูดนี้ออกมาว่า เบียร์สดเยอรมัน อาหารอีสาน กลายเป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดหลักในการทำโรงเบียร์.. เราอยากขายเบียร์เยอรมัน อาหารไทย ราคาคนไทยนี่คือหัวใจของเรา เราขายราคาคนไทยคือขายราคาถูก กำไรจะไม่เยอะ เมื่อคุณขายกำไรต่อหัวไม่เยอะ คุณต้องทำร้านให้ใหญ่ๆ วัดใจกันไปเลย เราจึงสร้างโรงเบียร์ที่จุคนได้ 1 พันที่นั่ง”
“ตอนแรกพี่เสถียรได้ตั้งชื่อโรงเบียร์ว่า โรงเบียร์ตะวันแดง ตามชื่อร้านตะวันแดงที่แกเป็นเจ้าของ จนกระทั่งวันหนึ่งพี่เสถียร โทรเข้ามาหาผม บอกว่า เติมคำว่า เยอรมัน เข้าไปด้วยดีกว่า สรุปใช้ชื่อเป็น โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เหตุผลคือคนจะได้รู้ว่าเราขายเบียร์เยอรมัน แม้ชื่อจะยาวแต่ก็คล้องจองจำได้ง่าย”
สุพจน์และทีมค่อยๆ พัฒนาคุณภาพของโรงเบียร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งคุณภาพของอาหาร รสชาติเบียร์สด ความบันเทิงบนเวที และการบริการที่ประทับใจทุกระดับ ท้ายเล่มของหนังสือเล่มนี้ บอกเล่าเรื่องที่คนไม่รู้เกี่ยวกับโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงไว้น่าสนใจ และเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์จริงที่ผู้ชมจะได้รับจากการไปชม Sunday Lunch & Live
โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เป็นธุรกิจโรงผลิตเบียร์ขนาดเล็ก (Microbrewery) แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งหมายถึงเป็นร้านอาหารขนาดเล็กที่มีโรงต้มเบียร์อยู่ในร้านด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 40 ล้านบาท เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2542 สาขาแรกบนถนนพระราม 3 ปัจจุบันมี 3 สาขา ได้แก่ พระราม 3 รามอินทรา และแจ้งวัฒนะ (แบรนด์โรงเบียร์แห่งนี้ จึงมีอายุ 26 ปีแล้ว)
โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ได้สร้างสรรค์รสชาติเบียร์จนถูกปากคนไทย ได้แก่ เบียร์ลาเกอร์ เบียร์ดุงเกล เบียร์ไวเซ่น และเพิ่มเติมใหม่อีก 2 รสชาติ ได้แก่ เบียร์โรเซ่ และฮอปส์บอมบ์ หรือที่นิยมเรียกกันว่า IPA ปริมาณเบียร์ที่จำหน่ายทั้ง 3 สาขา รวมกันทั้งปี ประมาณ 9 แสนลิตร หากคำนวณเล่นๆ เบียร์ 1 ลิตร = 2 แก้ว จำนวน 9 แสนลิตร จึงเท่ากับขายเบียร์ขนาด 0.5 ลิตร ได้ 1.8 ล้านแก้วต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 5 พันแก้ว และจ่ายภาษีเบียร์ให้แก่รัฐตลอดปี เป็นเงิน 56.5 ล้านบาท (ยอดคำนวณปี 2563 และปัจจุบันได้มีการจำหน่ายในรูปแบบขวดและกระป๋อง)
หลากเมนูอาหารยอดนิยม ได้แก่ ขาหมูทอดตะวันแดง กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา และส้มตำไหลบัว ล้วนเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่มีต้นตำรับมาจากโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
รู้หรือไม่ว่า ขาหมูที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในเมนู ‘ขาหมูทอดตะวันแดง’ เป็นขาหน้าที่มีขนาดเท่ากัน และใช้จำนวนมากกว่า 136,000 ขาต่อปี พร้อมได้มีส่วนในการช่วยเหลือเกษตรกรไทยในการรับซื้อผลผลิตต่างๆ เป็นจำนวนมหาศาลต่อปี อาทิ เมนูยอดฮิตอย่างกะหล่ำปลีทอดน้ำปลาที่ใช้กะหล่ำปลีมากถึง 68 ตัน, เมนูเกาเหลาเย็นตาโฟหม้อไฟ ใช้ผักบุ้งไทย 48 ตัน
โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง กำหนดมาตรฐานการเสิร์ฟอาหารอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที ส่วนอาหารประเภทนึ่ง ปลาเผา จะควบคุมเวลาให้ไม่เกิน 20 นาที รวมถึงการใช้ระบบ POS ในการควบคุมเวลาการสั่งหรือคำสั่งพิเศษมากกว่า 35 คำสั่ง อาทิ เผ็ดน้อย ไม่หวาน ไม่เปรี้ยว
โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ทั้ง 3 สาขา มีพื้นที่ให้บริการลูกค้า รวมกว่า 5 พันที่นั่ง จึงทำให้ต้องใช้บุคลากรจำนวนมากเพื่อรองรับการบริการที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมดเกือบ 1 พันคน
จาก Wednesday Song สู่ Sunday Lunch & Live จากคอนเสิร์ตวันพุธค่ำถึงถึงคอนเสิร์ตเที่ยงวันอาทิตย์ จากวิสัยทัศน์ของ ‘หนุ่มเมืองจันท์-สรกล’ ที่ผนึกรวมกับ ‘สุพจน์’ ร่วมกันสร้างอีกก้าวของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ให้เป็นกลายเป็นหนึ่งในปฏิทินใหม่ของความบันเทิง
คนอยากสนุกแต่ไม่อยากดึก กดจองบัตรกันได้แล้ววันนี้!
https://www.facebook.com/share/p/1FARM8qSEJ/