คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร จัดเวที ‘ผ่าตัดงบประมาณ รวมพลังสร้าง กทม.’ ระหว่างวันที่ 27-29 กันยายนที่ผ่านมา โดยงานได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวานนี้ ที่ชั้น 5 โชว์รูมเบนซ์ ทองหล่อ สำหรับหัวข้อสุดท้ายที่น่าสนใจคือ การแสดงวิสัยทัศน์รวมพลังสร้างกรุงเทพฯ โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมกิจกรรมด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงปัญหาใหญ่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่าโครงสร้างที่ควรแก้ไขเพื่อกระจายอำนาจการตัดสินใจการใช้งบประมาณ เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้ใช้โอกาสมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตของตนเอง
ขณะที่ผลของการไม่มีตัวแทนของประชาชน คือสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และ สมาชิกสภาเขต (ส.ข.) เข้าไปทำงาน ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้คนกรุงเทพฯ เสียโอกาส เพราะไม่มีคนเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม รถติด โดยเฉพาะการใช้งบเป็นแสนล้านแต่กลับไร้ประสิทธิภาพ ปัญหาของ กทม. ปัจจุบันจะยึดราชการเป็นศูนย์กลาง จึงย้ำว่าจะต้องให้ กทม. เป็นตัวอย่างของกระจายอำนาจที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ โดยเสนอให้จัดงบประมาณที่จะต้องฟังเสียงของประชาชนด้วยการยกเลิกผู้มีอำนาจที่สั่งประชาชน อีกทั้งต้องเตรียมพลังของประชาชน โดยให้ประชาชนมีอำนาจในการตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่เขตคิดและแก้ปัญหาให้เอง และจากสภาชุมนุมให้ประชาชนมีอำนาจโดยการกระจายอำนาจให้ประชาชนคิดแทน
สำหรับข้อเสนอของคุณหญิงสุดารัตน์ ให้มีการกระจายอำนาจการปกครอง โดยยกเลิกสิ่งที่ทำในปัจจุบัน ที่ผู้มีอำนาจอยู่ข้างบนแล้วสั่งการลงมาข้างล่าง เนื่องจากไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และเปลี่ยนมาให้ประชาชนเป็นผู้สั่งคนมีอำนาจ เป็นคนสะท้อนความต้องการ พร้อมเสนอให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารระดับเขตทุกเขต และนำเอาสภาเขตที่ถูกยุบไปหลังการรัฐประหารกลับมา เสนอให้มีการเลือกสภาชุมชนด้วย วันนี้ทุกชุมชนทุกหมู่บ้านจะมีคณะกรรมการชุมชนอยู่แล้ว แต่แทบไม่มีส่วนร่วมอะไรกับ กทม. เลย
นอกจากนี้ จะต้องจัดสรรงบประมาณโดยเน้นการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอประชาชน ซึ่งที่ผ่านมางบประมาณที่จัดซื้อจัดหาให้ประชาชนเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ต้องการ ส่อไปในทางทุจริต และเสนอให้สภาชุมชนมีอำนาจการตรวจสอบการใช้งบประมาณเพื่อเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยระดับชุมชน
คุณหญิงสุดารัตน์ยังเสนอให้จัดสรรงบพัฒนาชุมชนอย่างโครงการ SML อย่างที่พรรคไทยรักไทยเคยทำมา และเสนอแนะลดขั้นตอนให้เร็วขึ้น แก้ระเบียบให้สะดวกขึ้นเพื่อลดการทุจริต ให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ และเป็นการป้องกันการทุจริตด้วย พร้อมทั้งเสนอแนะการใช้เทคโนโลยียุคใหม่เพื่อสร้างโอกาสให้คนกรุงเทพฯ โดยเน้นย้ำให้รัฐบาลส่งเสริมให้คนกรุงเทพฯ มีโอกาสใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งจะถือว่ารายส่วนนี้จะเป็นฐานภาษีใหม่ให้รัฐบาล
อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นของการบริหารกทม.คือการคืนอำนาจให้กับคนกรุงเทพฯ ด้วยการกระจายอำนาจ ผ่านการปรับโครงสร้าง และกระจายงบประมาณโดยเชื่อว่าหากประชาชนมีส่วนร่วมจะสามารถแก้ไขปัญหาเล็กอย่างเช่น น้ำท่วมหรือปัญหาทางเท้า รวมถึงปัญหาใหญ่อย่างปัญหาฝุ่นพิษของกทม.
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์