วิกฤตการเมืองในประเทศซูดานกลายเป็นที่สนใจไปทั่วโลก หลังมีรายงานว่าเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน กองทัพซูดานได้เปิดฉากสังหารหมู่ประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านระบอบเผด็จการ และเรียกร้องให้กองทัพเปลี่ยนผ่านอำนาจบริหารมาสู่มือพลเรือน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยคน และเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่สร้างความกังวลไปทั่วโลก
ฝ่ายค้านในซูดานเผยว่า มีประชาชนถูกสังหารมากกว่า 100 คน ที่กรุงคาร์ทูมในวันดังกล่าว ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 40 ศพถูกทิ้งลงแม่น้ำไนล์
สถานการณ์ในซูดานมีแนวโน้มเลวร้ายลงเรื่อยๆ สื่อต่างประเทศรายงานว่า คณะทหารเปลี่ยนผ่านอำนาจรัฐบาลของซูดาน (TMC) ได้ตัดระบบอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ ขณะที่ในโลกออนไลน์เกิดกระแสการติดแฮชแท็ก #prayforsudan ในทวิตเตอร์ เพื่อเรียกร้องให้ทั่วโลกรับรู้ความเป็นไป และสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงในซูดานขณะนี้
ทั้งนี้วิกฤตการเมืองในซูดานฝังรากลึกมานานหลายปี ก่อนจะปะทุครั้งใหญ่เมื่อเดือนเมษายน หลังกองทัพได้โค่นล้มการปกครองของประธานาธิบดีโอมาร์ อัล บาชีร์ ที่ครองอำนาจมายาวนาน อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำนวนมากเกิดความหวาดระแวงในระบอบทหาร ดังนั้นจึงเรียกร้องให้กองทัพคืนอำนาจให้กับพลเรือนโดยเร็ว และมีการสร้างแคมเปญทวงคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้ทางการตัดสินใจปิดระบบอินเทอร์เน็ต
BBC รายงานอ้างหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในซูดานว่า ผลจากการปิดอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ ทำให้ธุรกิจในซูดานเสียหายหลายล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังบอบช้ำจากปัญหาความขัดแย้งภายในเพิ่มขึ้นไปอีก
ล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย.) สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า อัล บาชีร์ อดีตผู้นำที่ปกครองประเทศมานาน 30 ปี ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรก ในระหว่างถูกควบคุมตัวไปสอบสวนในคดีคอร์รัปชัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: