กองทัพซูดานและกองกำลังกึ่งทหาร Rapid Support Forces (RSF) ตกลงที่จะหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (25 เมษายน) ขณะที่นานาประเทศทั่วโลกได้ส่งเครื่องบิน เรือ และขบวนรถยนต์ มารับพลเมืองของตนออกจากซูดาน ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว
กองกำลัง RSF ยืนยันที่จะดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเปิดทางสู่การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
แถลงการณ์ของ RSF ระบุว่า “เราขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะหยุดยิงโดยสมบูรณ์ในช่วงระยะเวลาพักรบนี้”
ทางด้านของกองทัพซูดานก็ได้โพสต์ข้อความลงบน Facebook ว่า กองกำลังตกลงที่จะหยุดยิงเช่นกัน พร้อมเปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกาและซาอุดีอาระเบียได้เข้ามาเป็นสื่อกลางไกล่เกลี่ยให้เกิดการหยุดยิง โดย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เป็นผู้ที่ประกาศข้อตกลงดังกล่าวในครั้งแรก ก่อนที่ทุกฝ่ายจะร่วมหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วันเต็ม จนเกิดเป็นข้อตกลงหยุดยิงในครั้งนี้
แถลงการณ์ของบลิงเคนระบุว่า “ในช่วงเวลานี้ สหรัฐฯ ขอเรียกร้องให้กองทัพซูดานและกองกำลัง RSF หยุดยิงโดยทันที” พร้อมกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ จะประสานความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการที่จะเข้ามากำกับดูแลกิจการเกี่ยวกับการหยุดยิงถาวรและการจัดการด้านมนุษยธรรม
นับตั้งแต่ที่เหตุความรุนแรงปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 427 ราย ขณะที่โรงพยาบาลและบริการสาธารณะอื่นๆ ในซูดานได้รับความเสียหายหนัก ส่วนกรุงคาร์ทูมได้กลายสภาพเป็นสมรภูมิรบ ประชาชนต้องหลบอยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ท่ามกลางเสบียงน้ำและอาหารที่ลดลงไปทุกที
แฟ้มภาพ: Stringer / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
