การสู้รบในซูดานยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด แม้จะมีการทำข้อตกลงหยุดยิงก็ตาม โดยทั้งฝ่ายของกองทัพซูดานและกองกำลังกึ่งทหาร Rapid Support Forces (RSF) ได้ห้ำหั่นกันเพื่อชิงสถานที่สำคัญในกรุงคาร์ทูม พร้อมกล่าวหาว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
เสียงปืนยังคงดังสนั่นในกรุงคาร์ทูมวานนี้ (18 เมษายน) เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงควรมีผลบังคับใช้ในช่วงเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
เครื่องบินรบหลายลำบินวนเวียนอยู่เหนือท้องฟ้าของกรุงคาร์ทูม ขณะที่ผู้สื่อข่าวของ Reuters รายงานว่าได้ยินเสียงรถถังยิงปืนหลายนัด เพียงไม่นานหลังจากช่วงเวลาที่ข้อตกลงหยุดยิงควรมีผลบังคับใช้ ขณะที่ชาวบ้านในเขตเมืองหลวงเผยว่า พวกเขาได้ยินว่ามีการโจมตีทางอากาศในเมืองออมเดอร์มาน ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงคาร์ทูม ขณะที่มีพยานหลายคนรายงานตรงกันว่า กองกำลังภาคพื้นดินขนาดใหญ่ได้เดินทางเข้าเมืองมาจากทางตะวันออก
กองทัพซูดานและกองกำลังกึ่งทหาร RSF ได้ออกแถลงการณ์กล่าวโทษอีกฝ่ายว่าเป็นผู้ที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าว ขณะที่กองบัญชาการระดับสูงของกองทัพซูดานกล่าวว่า ทางการจะเดินหน้าปฏิบัติการต่อไปเพื่อรักษาความปลอดภัยของกรุงคาร์ทูมและภูมิภาคอื่นๆ
ความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายได้ปะทุขึ้นเมื่อ 4 วันก่อน หลังจากที่ พล.อ. อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพซูดาน และ พล.อ. โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล หรือที่รู้จักในชื่อ เฮเมดติ ผู้บัญชาการกองกำลังกึ่งทหาร RSF มีความเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับทิศทางที่ประเทศกำลังดำเนินอยู่ โดยประเด็นสำคัญคือแผนการควบรวมกองกำลัง RSF เข้ากับกองทัพ ที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าใครจะเป็นผู้นำคนใหม่ จนนำไปสู่การสู้รบอันดุเดือด ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อซูดานที่หวังจะได้กลับมามีประชาธิปไตยอีกครั้ง หลังจากที่มีการรัฐประหารครั้งล่าสุดเมื่อปี 2021
ด้านองค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า สถานการณ์สู้รบในประเทศเป็นสิ่งที่จุดชนวนให้เกิด ‘หายนะด้านมนุษยธรรม’ รวมถึงระบบสาธารณสุขที่อาจล่มสลายได้ โดยโครงการอาหารโลก (World Food Programme) จำเป็นต้องระงับการดำเนินการในซูดาน หลังจากที่พนักงาน 3 คนขององค์กรเสียชีวิตจากเหตุปะทะ
ขณะเดียวกัน วานนี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ต่อสายตรงหาสองผู้นำทหารของซูดานที่กำลังเปิดฉากสู้รบกันอย่างดุเดือดในประเทศ โดยเขาได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอย่างเร่งด่วน รวมถึงแสดงความวิตกกังวลในประเด็นที่มีพลเรือนชาวซูดานจำนวนมากบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการสู้รบที่ยืดเยื้อ
ข้อมูลจากสำนักข่าว AFP รายงานว่า ตั้งแต่ที่การแย่งชิงอำนาจระหว่างสองผู้นำทหารซูดานปะทุขึ้นจนเกิดเป็นความขัดแย้งรุนแรงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (15 เมษายน) จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 200 รายด้วยกัน
ภาพ: AFP
อ้างอิง: