เมื่อวานที่ผ่านมา (17 ก.ค.) ผู้นำกองทัพและผู้นำฝ่ายพลเรือน สองขั้วอำนาจในเกมการเมืองซูดานขณะนี้ ยอมจับมือร่วมโต๊ะลงนามในข้อตกลงยุติความไม่สงบที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจประธานาธิบดีโอมาร์ อัล บาชีร์ (Omar al-Bashir) ผู้นำที่ปกครองประเทศมาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปี เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา
โดยผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องต้องกันในการจัดตั้งสภาสูงสุดในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน 3 ปีนี้ โดยสภาจะต้องประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 11 คน เป็นสมาชิกจากฝ่ายพลเรือน 5 คน และเป็นสมาชิกจากฝ่ายกองทัพอีก 5 คน โดยสมาชิกคนสุดท้ายจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกทั้ง 10 คน
ในช่วงระยะเวลา 21 เดือนแรก ตัวแทนจากกองทัพจะเป็นผู้นำสภา ก่อนที่จะเปลี่ยนมือไปยังตัวแทนจากฝ่ายพลเรือน ทำหน้าที่เป็นผู้นำสภาสูงสุดอีก 18 เดือน ก่อนที่จะจัดการเลือกตั้งขึ้น นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันว่า ผู้ที่จะขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจะต้องถูกเลือกโดยฝ่ายพลเรือน แลกกับการที่จะสงวนเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีมหาดไทยไว้ให้กับตัวแทนจากฝ่ายกองทัพ
โดยฝ่ายกองทัพกำลังเร่งผลักดันการนิรโทษกรรม หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะต่างๆ แต่ยังไม่ถูกบรรจุเข้ามาในข้อตกลงดังกล่าวที่ลงนามร่วมกัน ซึ่งอาจจะมีการพิจารณาในประเด็นสำคัญต่างๆ ร่วมกันอีกครั้งในวันศุกร์ (19 ก.ค.) เป็นการรอมชอมครั้งสำคัญที่พยายามจะยุติภาวะติดหล่มทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์รัฐประหาร โดยมีเป้าหมายคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเมืองที่เป็นประชาธิปไตย
ภาพ: Mahmoud Hjaj / Anadolu Agency / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: