สถานการณ์ภายในซูดานยังคงคุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเกิดการเผชิญหน้าระหว่างผู้นำทหารเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ของคณะรัฐประหาร หรือสภานายพล ที่ก้าวขึ้นมาบริหารประเทศภายหลังจากที่ก่อรัฐประหารโค่นล้มอำนาจผู้นำเผด็จการคนสำคัญอย่างประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ ที่ปกครองซูดานมานานเกือบ 3 ทศวรรษได้สำเร็จเมื่อปี 2019
โดยศูนย์กลางความขัดแย้งในครั้งนี้คือ พล.อ. อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้นำคณะรัฐประหาร และผู้บัญชาการกองทัพซูดานกับ พล.อ. โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล หรือที่รู้จักในชื่อ เฮเมดติ ผู้บัญชาการกองกำลัง RSF ที่พยายามจะช่วงชิงอำนาจนำในการบริหารประเทศนี้ หลังมีแนวทางที่จะรวมกองกำลัง RSF ที่มีมากกว่า 1 แสนนายเข้ากับกองทัพซูดาน ซึ่งคำถามสำคัญคือ ใครจะเป็นผู้นำของกองกำลังใหม่นี้
ล่าสุดสถานการณ์ในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดานยังคงตึงเครียด มีเหตุระเบิดและเหตุปะทะกันระหว่างสมาชิกกองทัพซูดานและกองกำลัง RSF รวมถึงกลุ่มบรรดาผู้สนับสนุนของทั้งสองฝ่าย แม้จะมีความพยายามในการเจรจาหยุดยิงชั่วคราวแล้วก็ตาม แต่เหตุความรุนแรงยังคงดำเนินต่อไป เบื้องต้นกองกำลัง RSF ได้ประกาศหยุดยิงชั่วคราวเป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมง
ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 300 ราย นับตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ 1 รายเป็นชาวอเมริกัน โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีคำสั่งให้กองทัพเตรียมพร้อม หากจะต้องช่วยอำนวยความสะดวกในการอพยพหนีภัยอันตราย หากสถานการณ์ในกรุงคาร์ทูมยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
ภาพ: Abdelmoneim Sayed / AFP
อ้างอิง:
- https://www.aljazeera.com/news/2023/4/21/sudans-rsf-announces-72-hour-ceasefire-amid-khartoum-fighting
- https://www.cbsnews.com/news/sudan-american-dead-us-troops-embassy-evacuation-khartoum/
- https://news.sky.com/story/sudanese-paramilitary-group-agrees-to-72-hour-ceasefire-as-us-confirms-one-of-its-citizens-has-died-12862309