วันนี้ (18 ธันวาคม) สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้าตัวผู้สมัครพื้นที่ชลบุรี ว่า ขณะนี้ลงตัวครบหมดแล้วทั้ง 10 เขต เช่นเดียวกับจังหวัดระยอง ตราด เพชรบุรี ราชบุรี ที่ลงตัวแล้ว ส่วนจังหวัดจันทบุรี ตนได้ทำหน้าที่ประสาน และไปดูเต็มตัว ซึ่งทีมจังหวัดนครศรีธรรมราช ของ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ก็อยู่กับตน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 เขตที่ตนดูแลก็มาแล้ว
สุชาติกล่าวอีกว่า จังหวัดนราธิวาส 1 เขตก็มาแล้ว ซึ่งผู้สมัครที่ตนดูแลทั้งหมดประมาณ 20 คน คิดว่าเผื่อเหลือเผื่อขาด น่าจะได้ประมาณ 16-17 คน เพราะการจะลดหายไป 10-20% เป็นเรื่องปกติ เนื่องจาก 1-2 เดือนอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจเป็นจังหวะที่นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล มีความนิยมขึ้นมา อาจได้ครบเลยทุกอย่างเป็นไปได้หมด
ส่วนนโยบายของจังหวัดชลบุรี จะยึดนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย คือ ‘พูดแล้วทำ’ ตามที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้พูดมาตลอด และอย่างที่รู้ว่า คนที่มาเป็นกลุ่มบ้านใหญ่มีพลังในการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ ทุกคนที่ลงสมัครชาวบ้านจับต้องได้ พึ่งพาได้ คนเหล่านี้คือผู้แทนราษฎร แม้ผู้แทนราษฎรจะมีหน้าที่ออกกฎหมาย แต่ถ้าไม่รู้จักพื้นที่จะออกกฎหมายไม่ได้ ดังนั้นท่านต้องเริ่มจากต้นน้ำ ไม่อย่างนั้นคุณก็จะไม่รู้อะไรเลย
ทั้งนี้ ในส่วนจังหวัดชลบุรี ทั้ง 10 เขต มีความคาดหวังที่ให้ผู้สมัครเป็น สส. อยู่แล้ว และยังมีสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) เป็นนักการเมืองที่อยู่ทางการเมืองมายาวนาน รวมถึงได้รับการสนับสนุนจาก สนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า พื้นที่ชลบุรีไม่มีความทับซ้อนกัน ทุกอย่างจบหมดแล้ว ทุกคนยอมรับในความเหมาะสมของแต่ละคน
ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ระหว่างกระแสบ้านใหญ่น้ำหนักจะไปทางไหน สุชาติกล่าวว่า บ้านใหญ่เป็นที่พึ่งพิงของประชาชนร่วม 20 ปี ที่ประชาชนจับต้องได้มีคุณค่ามากกว่ากระแสที่เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป ส่วนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมากระแสพรรคก้าวไกลมาในช่วงของสองสัปดาห์สุดท้าย จนได้ สส. ชลบุรีไปจำนวนมากนั้น เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาบริบทต่างออกไป เพราะมีการแข่งขันของกลุ่มที่มีพลังทางการเมืองทั้งบ้านใหญ่บ้านรอง มีพรรคการเมืองหลายพรรค และในชลบุรี เราคุยกันแล้วว่าเราทำเพื่อคนชลบุรี มีการเรียกร้องจากผู้นำในอดีต ทั้งอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ให้บ้านใหญ่ในชลบุรีรวมกันเพื่อให้ชลบุรีเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ให้เหมือนกับบางจังหวัด เราต้องทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
อยากให้มองพรรคการเมืองไหนจับต้องได้ พูดแล้วทำ ก็ให้เลือกพรรคการเมืองนั้น และวันนี้ตนเชื่อว่ากระแสมัน จับต้องไม่ได้ พร้อมย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีกระแส วิเคราะห์ประชาชนรู้อยู่แล้วว่าต้องเลือกผู้แทนราษฎรมาใช้งาน ไม่ใช่ เรียกผู้แทนมาใช้ประชาชน นี่คือความยั่งยืนที่ตายตัวทางการเมือง


