วันนี้ (28 ธันวาคม) จากกรณีที่ สุชาติ อุสาหะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์รวยผิดปกติกว่า 603 ล้านบาท
โดยสุชาติถูกกล่าวหาว่า จากการเปรียบเทียบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสุชาติเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายก อบจ.เพชรบุรี อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี โดยการตรวจสอบเชิงลึกปรากฏว่าสุชาติและคู่สมรสมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น และมีหนี้สินลดลง ในลักษณะที่ไม่สัมพันธ์กับรายได้ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ และมีหนี้สินลดลงมากผิดปกติ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 603,834,218.37 บาท
ล่าสุดคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการไต่สวนว่า จากการไต่สวนไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าสุชาติเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายก อบจ.เพชรบุรี ร่ำรวยผิดปกติตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ทั้งนี้ จากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อปี 2557 สุชาติมีเงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้จาก เฉลิมวิทย์ นิ่มนวล จำนวน 1,578,500 บาท และ ชรินทร พิมพ์รอด จำนวน 1,280,000 บาท กับเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ให้บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด จำนวน 78,407,555 บาท อันเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (2) (8) แห่งประมวลรัษฎากร และยังมิได้มีการเสียภาษีตามกฎหมาย จึงเห็นควรแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าวให้กรมสรรพากรทราบ เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
ปัจจุบันสุชาติดำรงตำแหน่ง ส.ส. เพชรบุรี เขต 3 และเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก่อนหน้านี้เคยได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ว. เพชรบุรี เมื่อปี 2557 สำหรับบทบาทในงานการเมืองท้องถิ่น เคยเป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตะคร้อ, สมาชิกสภา อบจ.เพชรบุรี, รองประธานสภาจังหวัดเพชรบุรี และรองนายก อบจ.เพชรบุรี