วันนี้ (24 มกราคม) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน สุชาติ ชมกลิ่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 14 คน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ยื่นฟ้องอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), รักษาการอธิบดีดีเอสไอ และผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ของดีเอสไอ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สืบเนื่องจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีมติเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา มีมติกล่าวหาอดีตรัฐมนตรีว่าการ 2 คน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน 2 คน รวม 4 คน ในความผิดมาตรา 149 และ 157 หลังพบหลักฐานเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการหักหัวคิวแรงงานที่ไปเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์ จำนวน 12,000 คน ระหว่าง ปี 2563-2566 คนละ 3,000 บาท รวมค่าเสียหาย 36 ล้านบาท
สุชาติกล่าวว่า การที่ดีเอสไอ ออกมาแถลงข่าว ส่งผลให้ตนเอง ครอบครัว ได้รับความเสียหาย แม้ว่าครั้งนั้นจะไม่มีการเอ่ยชื่อ แต่ได้พูดว่ารัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ ทำให้ประชาชนและหลายคนเข้าใจว่าเป็นตน และการที่ตนมายื่นฟ้องในครั้งนี้ถือเป็นการรักษาสิทธิ และเชื่อว่าการที่ดีเอสไอออกมาแถลงเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
เนื่องจากคดีสำคัญที่ประชาชนได้รับผลกระทบกลับไม่แถลง แต่มาแถลงคดีนี้ทั้งที่มีการยื่นสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมปี 2566 ที่แล้ว แต่ยังกลับมาแถลงข่าวอีก โดยก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีการเรียกตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้องไปสอบถามทั้งที่ตนก็เป็นข้าราชการระดับสูง
เมื่อถามว่าขณะดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2563 มีการร้องเรียนเรื่องการเรียกรับสินบนในลักษณะที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ สุชาติยอมรับว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจริง และได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว เป็นบริษัทเอกชนกับเอกชน และผลตรวจสอบออกมาก็ไม่พบ
นอกจากนี้ยังฝากถึง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ควบคุมดูแลหน่วยงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งวันนี้ที่ตนเองมายื่นเรื่องก็มาในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ปกป้องสิทธิเช่นกัน
โดยภายหลังยื่นฟ้องสุชาติกล่าวต่อว่า ศาลได้รับคำฟ้องแล้วนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจคำฟ้องในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้