What U Need
ถึงเวลาที่สาวกคอลเล็กชัน ‘Uniqlo U’ ของแบรนด์ Uniqlo ที่ดีไซน์โดยคริสตอฟ เลอแมร์ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนายูนิโคล่ ปารีส (Uniqlo Paris R&D Center) ต้องเตรียมเงินไปช้อปซีซันใหม่ เพราะจะวางขายวันที่ 14 กันยายนนี้ โดยในครั้งนี้เน้นคอนเซปต์ ‘The Future of LifeWear’ หรืออนาคตของไลฟ์แวร์นั่นเอง ที่มีไอเท็ม อาทิ เสื้อโค้ต Blocktech ที่กันน้ำและกันลม, 3D Knit เทคนิคการถักแบบสามมิติที่ใช้เทคโนโลยีโฮลการ์เมนท์ (Wholegarment) เพื่อซิลูเอตที่สวยงามและความสบายอีกขั้น และยังมีเทคนิคการปั่นเส้นด้ายแบบพิเศษ (Spinning Technique) เพื่อให้ได้ลุคที่แตกต่างและสัมผัสอันนุ่มสบายสำหรับเสื้อสเวตเตอร์ Mélange อีกด้วย
Celebrating Bangkok
แบรนด์ Pichita สร้างสรรค์คอลเล็กชันล่าสุด Pre-Fall 2018 ภายใต้แนวคิด ‘Flows of Bangkok’ โดยดึงเอาความเป็นเอกลักษณ์ของ ‘กรุงเทพฯ’ จากจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Pichita และถิ่นกำเนิดของ พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ระดับตำนานของวงการแฟชั่นไทย และกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ไปพร้อมกับ ธีมา รักษะจิตร ทายาทสาวผู้สร้างสรรค์ผลงานการออกแบบที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นไทยจากรุ่นสู่รุ่น โดยยังได้เน้นวิถีชีวิตแห่งสายน้ำและการเดินทางท่ามกลางสังคมเมืองร่วมสมัย ซึ่งปรากฏบนลวดลายภาพวาดและภาพปรินต์บนเสื้อผ้าที่ถักทอจากเนื้อผ้าที่สวมใส่สบายได้ทุกวัน เช่น ผ้า Silk ต่างๆ ใครที่สนใจสามารถไปช้อปได้ที่ป๊อปอัพสโตร์ ตั้งแต่วันที่ 15-28 สิงหาคมนี้ ที่ร้าน Siwilai ห้างเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
https://www.youtube.com/watch?v=o_Acxaue_Wk
Jean Vibes
แบรนด์กางเกงยีนส์ American Eagle เปิดตัวแคมเปญใหม่ ‘Ne(X)t Level Jeans Campaign’ ที่สานต่อความอิสระแบบเป็นตัวของตัวเองและความแตกต่าง ตัดผ่านโลกของแฟชั่น เพลงและวัฒนธรรมกลุ่มคนวัยรุ่น โดยในตัววิดีโอแคมเปญที่ใช้ชื่อว่า ‘Make Moves’ ได้ช่างถ่ายภาพยนตร์ฝรั่งเศส Mathieu Plainfossé มาทำให้ พร้อมใช้เพลงสุดฮิต DNA ของเคนดริก ลามาร์ ซึ่งต้องการนำเสนอความหลากหลายในกลุ่มลูกค้ากับภูมิหลังที่แตกต่าง ทั้งในเรื่องเพศ อารมณ์ และความสนใจ อีกทั้งยังเน้นถึงจิตวิญญาณที่ขับเคลื่อนวัฒนธรรมของกลุ่มวัยรุ่นในทุกวันนี้อีกด้วย
This Is America
ด้วยเรื่องราวการอพยพและกฎหมายการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศอเมริกาใน 2 ปีที่ผ่านมาที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรง ดีไซเนอร์อเมริกันหลายคนจึงได้นำประเด็นนี้มาเล่นในบริบทเสื้อผ้าตัวเอง ล่าสุด Phillip Lim กับคอลเล็กชัน Fall 2018 ที่ใช้สไตล์การแต่งตัวของคนพเนจรแบบสาวยิปซีมาเป็นแก่นสารสำคัญในการรังสรรค์เสื้อผ้า โดยจะเน้นประโยชน์ใช้สอยจากสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นชิ้นผ้าในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกนำมาตัดเย็บประกอบขึ้นมาเป็นกระโปรงและเสื้อ ซึ่งเรียกว่า Patchwork หรือการตัดต่อ โดยสิ่งนี้ทางดีไซเนอร์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนคนนี้ก็เคยเห็นคุณแม่ที่อพยพมาอยู่อเมริกาเคยนำเศษผ้าต่างๆ มาทำเป็นชุดใหม่เป็นประจำช่วงเขายังเด็ก
Hadid for Missoni
เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สร้างสรรค์แคมเปญใหม่ได้ประทับใจทุกซีซันสำหรับ Missoni ที่สำหรับ Fall/Winter 2018 ครบรอบ 65 ปีในวงการ โดยได้เลือก จีจี้ ฮาดิด อีกหนึ่งนางแบบแห่งยุคมาเป็นพรีเซนเตอร์อีกครั้ง หลังเคยมาถ่ายให้ในซีซัน Fall/Winter 2017 พร้อมยังเลือก Harvey Weir ช่างภาพสาวคนเดิมจากซีซันก่อนที่ได้ เคนดัลล์ เจนเนอร์ มาเป็นนางแบบมาถ่ายให้อีกรอบ โดยเสื้อผ้าได้นำการตัดต่อ Patchwork มาผสมผสานกับเรื่องราวเสื้อผ้าและสีสันจากหลายชนชาติ ทั้งประเทศทวีปแอฟริกาจาเมกา และสกอตแลนด์ เป็นต้น ส่วนในดีเทลก็จะมีการเล่นกับพู่ (Fringe) และการปักแบบแจ็กการ์ด (Jacquard) เพื่อเพิ่มมิติให้กับทุกชิ้นที่สุภาพสตรีสวมใส่ และมีสปิริตของวิถีชีวิตยุค 70s และ 80s จากไอคอนอย่าง ฌอง-มิเชล บาสเกีย, โรเบิร์ต แมปเปิลโธรป และ ลิซา โบเน็ต
Cover Photo: Courtesy of Missoni
Proofreader: พรนภัส ชำนาญค้า