วันนี้ (8 ธันวาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตามที่รัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนปรนให้ชาวต่างชาติเข้ามาพำนักในประเทศไทย ผ่านมาตรการนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa: STV) ที่ต้องการมาพำนักระยะยาว (Long Stay) และนักท่องเที่ยวและลูกเรือที่เดินทางเข้าไทยโดยเรือสำราญและกีฬา (เรือยอชต์) โดยมีเงื่อนไขคือ ต้องเป็นนักท่องเที่ยวมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุขสำหรับการผ่อนคลายผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยน้อยกว่าเป้าหมายที่กำหนด คือ มีเพียง 825 คน จาก 29 สัญชาติ และมีเรือสำราญ (เรือยอชต์) เข้าไทย จำนวน 6 ลำเท่านั้น
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศเพิ่มขึ้น ครม. จึงมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ฉบับที่ ..) รวม 2 ฉบับ ซึ่งทั้ง 2 ฉบับ เป็นการยกเลิกเงื่อนไขกรณีการเดินทางมาพำนักระยะยาว สำหรับบุคคลต่างด้าวที่เป็นนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (STV) และการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา (เรือยอชต์) โดยไม่จำกัดประเทศ จากเดิมที่ให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงขยายระยะเวลาขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (STV) ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองให้แก่คนต่างด้าวที่มากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอชต์) ออกไปอีก 30 วัน นับจากวันที่ประกาศฉบับนี้บังคับใช้
รัชดากล่าวย้ำว่า แม้จะมีการผ่อนปรนในเรื่องดังกล่าว นักท่องเที่ยวทั้งสองกลุ่มยังคงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (STV) ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เช่น การแจ้งที่พำนักในประเทศไทยให้ชัดเจน และต้องยินยอมที่จะกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
