สถานีโทรทัศน์สวิตเซอร์แลนด์เปิดสถิติ เนย์มาร์นอนบนพื้นในฟุตบอลโลกนาน 14 นาที!

สถานีโทรทัศน์ RTS (Radio Télévision Suisse) ในสวิตเซอร์แลนด์เผย เนย์มาร์ ศูนย์หน้าจอมลีลาทีมชาติบราซิลใช้เวลานอนเจ็บปวดอยู่บนพื้นสนามจากการถูกทำฟาวล์ในฟุตบอลโลกปีนี้ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 14 นาที

RTS ได้จำแนกสถิติที่น่าสนใจของนักฟุตบอลเจ้าของค่าตัวแพงที่สุดในโลก 222 ล้านยูโรไว้คร่าวๆ ดังนี้

ใช้เวลานอนอยู่บนพื้นจากการถูกทำฟาวล์ในฟุตบอลโลกปีนี้แล้วประมาณ 14 นาที
เฉลี่ยทุกการลงเล่น 1 นัด เนย์มาร์จะใช้เวลาอยู่บนพื้นนาน 4 นาที 30 วินาที
เมื่อเปรียบเทียบกับการยิงประตู การล้มกลิ้งอยู่บนพื้นราว 7 นาทีจะทำให้เขายิงได้ 1 ลูก
เกมในรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับเม็กซิโก เนย์มาร์ล้มไปกองบนพื้นนานถึง 5 นาที 30 วินาที จากการถูก มิเกล ลายุน เหยียบบริเวณข้อเท้าด้านขวา
เกมกับทีมชาติเซอร์เบีย คอสตาริกา และสวิตเซอร์แลนด์ในรอบแบ่งกลุ่ม ใช้เวลาอยู่บนพื้นนาน 1 นาที 56 วินาที, 2 นาที 6 วินาที และ 3 นาที 40 วินาที ตามลำดับ

ส่วน ESPN ได้นำสถิติที่เนย์มาร์ถูกทำฟาวล์ในเกมที่พบกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์นัดเปิดสนามรอบแบ่งกลุ่มของทีมชาติบราซิลมากางดูอย่างละเอียด พบว่าผู้เล่นวัย 26 ปีถูกทำฟาวล์ในเกมดังกล่าวรวมกว่า 10 ครั้ง มากที่สุดในฟุตบอลโลก 20 ปีหลังสุด เป็นรองเพียง อลัน เชียเรอร์ ที่ถูกทำฟาวล์ในเกมที่พบกับทีมชาติตูนิเซียเมื่อปี 1998 รวม 11 ครั้ง

เมื่อเทียบกับผู้เล่นทีมชาติบราซิลด้วยกันเองจะพบว่าเนย์มาร์ถูกทำฟาวล์มากที่สุดต่อเกมการแข่งขัน 1 แมตช์ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนับตั้งแต่ปี 1966 หรือ 52 ปีที่แล้ว

สถิติอย่างเป็นทางการจากเว็บไซต์ FIFA ระบุว่าปัจจุบันเนย์มาร์ลงเล่นไปแล้วทั้งสิ้น 4 นัด ยิงได้ 2 ประตู โดยเป็นผู้เล่นที่ถูกทำฟาวล์เยอะที่สุดมากเป็นอันดับ 1 ในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ที่ 23 ครั้ง เฉลี่ยทุกๆ เกมจะโดนทำฟาวล์ 5.7 ครั้งจนเกิดเป็นมีมล้อเลียนบนโลกโซเชียลจำนวนมาก พร้อมคำครหาที่ว่าเจ้าตัวเล่นใหญ่เกินความเป็นจริง

เนย์มาร์ได้ออกมาตอบโต้เสียงวิจารณ์ดังกล่าว โดยบอกว่าเขาไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้ (การล้มไปกองในสนามจากความเจ็บปวด) โดยเฉพาะเกมที่พบกับทีมชาติเม็กซิโกที่ถูกเหยียบบริเวณข้อเท้า

“มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างซับซ้อนและผมไม่สามารถควบคุมได้ ผมถูกย่ำแบบไม่ยุติธรรม มันคือการเล่นนอกเกม และผมไม่คิดว่าเขาควรจะทำแบบนั้น

“แต่ก็นั่นแหละ พวกเขา (เม็กซิโก) พล่ามกันมากไปก่อนลงแข่ง ตอนนี้พวกเขาเลยได้กลับบ้านกันแล้ว”