หลังจากที่ภารกิจการประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีผ่านพ้นไปเมื่อวานนี้ โดยผลโหวตในที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับผลโหวตจำนวน 500 คะแนน ชนะผลโหวตของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้ 244 คะแนน และงดออกเสียง 3 คะแนน
ล่าสุด (6 มิ.ย.) สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังหลังจากที่รัฐสภาส่วนใหญ่เลือกเทคะแนนให้กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังจากที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้จากการรัฐประหารมาแล้วถึง 5 ปี และติงว่า เป็นการกระทำที่ไม่สง่างาม พร้อมประกาศหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. ต่อไป ในขณะที่ข้อความจากแถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาระบุ ดังนี้
ทางสหภาพฯ เห็นว่า การลงมติดังกล่าวของรัฐสภามีความไม่สง่างามดังต่อไปนี้
1. พล.อ. ประยุทธ์ มีพฤติการณ์ล้มล้างรับธรรมนูญและการปกครองระบอบประชาธิปไตยจากการกระทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ปล่อยปละให้เกิดการทุจริตในภาครัฐ และจงใจละเลยไม่ตรวจสอบการทุจริตที่คนใกล้ชิดของตนมีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ถือว่าเป็นผู้มีความสุจริตเป็นประจักษ์ นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
2. พล.อ. ประยุทธ์ ใช้อำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีละเมิดสิทธิ ปิดกั้นเสรีภาพ รวมถึงปล่อยปละให้มีการคุกคามนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนหลายกรณี อีกทั้งยังใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบอย่างพร่ำเพรื่อ จนทำลายหลักนิติรัฐและบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและกระบวนการนิติบัญญัติ นอกจากนี้ การใช้อำนาจออกคำสั่งตามมาตรา 44 ของ พล.อ. ประยุทธ์ ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อแผ่นดินหลายครั้ง เช่น กรณีการออกคำสั่งตามมาตรา 44 ปิดเหมืองทองอัคราโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จนเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนมาก เป็นต้น
3. การลงมติในครั้งนี้ให้สิทธิสมาชิกวุฒิสภาร่วมลงคะแนนเสียงด้วย ทั้งที่ตามธรรมเนียมการปกครองระบอบประชาธิปไตย สมาชิกวุฒิสภาไม่ควรมีส่วนร่วมลงคะแนนรับรองบุคคลใดดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะสมาชิกวุฒิสภานั้นมิได้มีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่มาจากการคัดเลือกของคณะกรรมการอันมี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้เป็นส่วนหนึ่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติด้วย ดังนั้น การที่สมาชิกวุฒิสภาลงคะแนนรับรอง พล.อ. ประยุทธ์ นอกจากจะขัดต่อหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยแล้ว ยังเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะเป็นการกระทำอันมีลักษณะต่างตอบแทน
สหภาพฯ เชื่อว่า การอภิปรายและลงมติในวันนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการนำประเทศกลับเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยสากล สหภาพฯ จึงขอแสดงจุดยืนต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ พล.อ. ประยุทธ์ และพวก ในทุกวิถีทาง และขอสนับสนุนการดำเนินงานของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทุกพรรค ตราบที่พรรคยังคงรักษาอุดมการณ์ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ และมุ่งนำประชาธิปไตยคืนสู่ประเทศไทย
สหภาพฯ มีความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่สมาชิกวุฒิสภามิได้ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยสากล โดยการลงคะแนนงดออกเสียง และขอประณามพรรคการเมืองที่เคยให้คำมั่นกับประชาชนว่าจะต่อต้านการสืบทอดอำนาจ แต่กลับลงมติรับรองให้ พล.อ. ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การกระทำดังกล่าวถือเป็นการหักหลังและไม่ให้เกียรติประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นอย่างยิ่ง สหภาพฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พรรคการเมืองเหล่านั้นจะยังรักษาสัญญาดังกล่าว โดยการร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจในภายหลัง
สหภาพฯ ยินดีร่วมมือและขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสกัดกั้นมิให้ พล.อ. ประยุทธ์ และพวก สืบทอดอำนาจของพวกตนได้สำเร็จ ทั้งนี้เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศชาติ ประชาชน และประชาธิปไตย
สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย
5 มิถุนายน พ.ศ. 2562
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: