×

กยศ. เผยต้องของบฯ อีก 4-5 ปีก่อนยืนได้ด้วยตัวเอง ชี้ปรับโครงสร้างหนี้ช่วยลดการผิดนัดชำระ

19.09.2025
  • LOADING...

กยศ. เผย จำเป็นต้องของบฯ จากภาครัฐอีก 4-5 ปี ก่อนยืนได้ด้วยตัวเอง เผยยอดปล่อยกู้ปี 68 ปล่อยกู้แล้ว 5.8 แสนราย เป็นวงเงินกู้ยืมกว่า 3.7 หมื่นล้านบาท ชี้ปรับโครงสร้างหนี้ช่วยลดการผิดนัดชำระได้จริง

 

วันนี้ (18 กันยายน) ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เผยว่า กยศ.จำเป็นต้องของบประมาณจากภาครัฐอีก 4-5 ปีก่อนจะสามารถยืนได้ด้วยตัวเองอย่างเต็มศักยภาพ

 

โดยสาเหตุสำคัญที่ กยศ. จำเป็นต้องกลับมาของบประมาณอีกครั้ง ดร.นันทวันให้เหตุผลว่า กยศ. ‘มีเงินออกมากกว่าเงินเข้า’ ซึ่งในแต่ละปี กยศ.ปล่อยกู้เงินราว 3-4 หมื่นล้านบาท แต่ได้รับเงินคืนเพียง 2.2-2.8 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

 

ดร.นันทวันกล่าวว่า เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องและการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศในระยะยาว กยศ. จึงมีความจำเป็นอย่างมากในการกลับมาของบประมาณอีกครั้งหนึ่ง

 

แม้จะไม่มีการระบุว่า ต้องเบิกงบฯ เป็นวงเงินเท่าไร แต่ดร.นันทวันเผยว่า ได้มีการจัดทำกรอบงบประมาณสำหรับปีการศึกษา 2569 ไว้เบื้องต้นแล้ว โดยจำเป็นต้องรอทราบจำนวนของผู้กู้รายใหม่ในปีการศึกษา 2568 เสียก่อน จึงจะคำนวณงบที่ต้องใช้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

 

ทั้งนี้ กยศ.เคยตั้งตัวจนกลายเป็นกองทุนหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์ได้แล้ว โดยไม่มีการของบประมาณจากภาครัฐเลย ตลอดปี 2561-2567 ที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม ตลอดปี 2568 ที่ผ่านมา กยศ. ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายจากรัฐบาลอีกครั้ง ดังนี้

 

  • ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบฯ 68 จำนวน 19,000 ล้านบาท
  • งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 3,100 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการจัดสรรเงินกู้ยืมครั้งที่ 1 ของปีการศึกษา 2568
  • งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 8,488 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการจัดสรรเงินกู้ยืมครั้งที่ 2 ของปีการศึกษา 2568

 

ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 17 กันยายน 2568 พบว่า กยศ.กู้ยืมเงินในปีการศึกษา 2568 ไปแล้วกว่า 584,677 ราย วงเงินกว่า 37,163 ล้านบาท

 

ปรับโครงสร้างหนี้ช่วยลดผิดนัดชำระหนี้

 

สำหรับการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้กู้ยืมเงิน กยศ.มีโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งสามารถทำสัญญาได้ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยปัจจุบัน มีผู้กู้ยืมเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้แล้วกว่า 720,783 ราย

 

นอกจากนี้ กยศ. ยังได้คำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) เพื่อให้ผู้กู้ยืมเงินได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566

 

โดยผู้กู้จะได้รับการเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้เป็นเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ โดยคิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี

 

ทั้งนี้ ดร.นันทวันระบุว่า กยศ.จะเร่งคำนวณหนี้ใหม่ให้ครบถ้วน 4 ล้านบัญชีภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้ผู้กู้ยืมมั่นใจว่ายอดหนี้ที่แสดงนั้นถูกต้องและตรวจสอบได้ โดยจะอัปเดตทุกสัปดาห์ในเดือนกันยายน

 

ไม่เพียงเท่านั้น ดร.นันทวัน ยังเผยอีกว่า การคำนวณหนี้ใหม่นี้ มีส่วนสำคัญให้ อัตราการผิดนัดชำระหนี้ลดลงเหลือ 64% เหลือ 2.4 ล้านคน จากจำนวนผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ประมาณ 3.7 ล้านราย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising