×

บาทแข็งไม่สอดคล้องพื้นฐาน ผู้ว่าฯ ธปท. ย้ำ ไม่ต้องการเห็นบาทแข็งนำเพื่อน พร้อมดูแลใกล้ชิด

17.09.2025
  • LOADING...

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติย้ำ ‘เงินบาทแข็ง’ เป็นสิ่งที่ ธปท. ไม่ต้องการเห็น และไม่สอดคล้องพื้นฐานที่ควรเป็น ชี้ ‘ไม่ได้นิ่งนอนใจ-ดูแลอยู่’ ระบุ ‘การเก็บภาษีทองคำแท่ง’ อยู่ในขั้นหารือเท่านั้น เหตุจ่อกระทบหลายภาคส่วน

 

ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press) ครั้งที่ 2 ของปี 2568 โดยระบุว่า เงินบาทแข็งค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบเพื่อนบ้าน แข็งค่าขึ้นประมาณ 7% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ซึ่งนับเป็นปรากฎการณ์ที่ธปท.ไม่อยากเห็น และไม่ได้สอดคล้องกับทิศทางของการปรับตัวเชิงพื้นฐาน

 

โดยอธิบายว่า เงินบาทที่แข็งค่าช่วงนี้มาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งสวนทางกับพื้นฐาน เนื่องจาก สหรัฐฯ มีมีมาตรการขึ้นภาษีศุลกากร (Tarrif) ซึ่งตามหลักการแล้ว สกุลเงินดอลลาร์ควรจะแข็งค่าขึ้น

 

นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกซ้ำเติมจากการการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ทำให้ค่าเงินบาทแข็งมากกว่าเพื่อนบ้าน โดยค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ของเงินบาทกับทองคำ ‘ค่อนข้างสูง’ อยู่ที่ราว 0.7

 

ดร.เศรษฐพุฒิยืนยันว่า ธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และดูแลอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ เพื่อไม่ให้มีความผันผวนมากเกินไป เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีการส่งออกค่อนข้างมาก โดยในฝั่งของอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.5% ต่อปีแล้วในปัจจุบัน

 

อย่างไรก็ตาม ดร.เศรษฐพุฒิ ระบุว่า “ที่ผ่านมา การลดดอกเบี้ยไม่ได้เห็นผลต่อค่าเงินอย่างชัดเจนขนาดนั้น ดอกเบี้ยนโยบายไทยจริงๆ มีระดับที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน แต่ว่าค่าเงินไม่แนวโน้มที่จะแข็งค่ากว่าเพื่อนบ้าน”

 

ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวอีกว่า ในการประชุมหารือกันกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาวิธีลดผลกระทบของการซื้อขายทองคำต่อค่าเงินนั้น มาตรการภาษีทองคำแท่ง และการหนุนให้มีการเทรดทองในสกุลดอลลาร์ เป็นเพียงในหัวข้อที่มีการหารือเท่านั้น

 

“ปัจจุบันทั้ง 2 มาตรการอยู่ในขั้นตอนการหารือเท่านั้น โดยท้ายที่สุดจะออกมาแบบไหน ต้องรอดูการหารือกันในหลายภาคส่วนก่อน
เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก”

 

สำหรับกรณีที่ภาคเอกชนมองว่า มีการส่งออกทองไปกัมพูชามากผิดปกติ ดร. เศรษฐพุฒิ ไม่สามารถตอบได้ว่าเกี่ยวโยงกับธุรกิจสีเทาหรือไม่ แต่ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลและธปท. ให้ความสำคัญ

 

“ตัวส่วนต่างของ Net Error & Omission เป็นสิ่งที่เราเจอทุกปี แต่ปีนี้มีเยอะ กล่าวคือผลโดยรวมจากตัวเลขดุลการชำระเงิน ยังเป็นตัวเลขจริงและวัดได้ ส่วนตัวเลข Error & Omission เป็นส่วนที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ดูไม่ออก ซึ่งอาจมาจากหลายทางเช่น ทั้งคริปโทฯ การส่งออก นำเข้า ซึ่งหากตัวเลขนี้มีความชัดเจนขึ้นจึงจะระบุได้ว่า มาจากสิ่งที่หลายฝ่ายกังวลหรือไม่”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising