วันนี้ (20 มิถุนายน) นายแพทย์ กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่รวดเร็ว รวมถึงความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ได้ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากเกิดภาวะ Political Stress Syndrome (PSS) แม้จะไม่ใช่โรคทางจิตเวชโดยตรง แต่เป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์และจิตใจที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หรือมีแนวโน้มเอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน
อาการของ Political Stress Syndrome (PSS) แบ่งเป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่:
- อาการทางร่างกาย: ปวดตึงขมับหรือต้นคอ, หายใจไม่อิ่ม, ใจสั่น, นอนไม่หลับ, หรือแน่นท้อง
- อาการทางจิตใจ: หงุดหงิดง่าย, โกรธ, ฉุนเฉียว, เบื่อหน่าย, ฟุ้งซ่าน, หรือหมกมุ่นกับข้อมูลทางการเมืองจนเครียด
- ปัญหาทางพฤติกรรม: โต้แย้งหรือโต้เถียงด้วยอารมณ์ โดยเฉพาะในครอบครัว หรืออาจถึงขั้นใช้ความรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์
นายแพทย์กิตติศักดิ์ย้ำว่า ประชาชนควรมีสติในการรับฟังข้อมูลอย่างรอบคอบ และคำนึงถึงผลกระทบจากการแสดงความคิดเห็นหรือใช้ถ้อยคำที่รุนแรง เพราะอาจก่อให้เกิดความเกลียดชังและทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น แม้จะมีเจตนาสื่อสารข้อเท็จจริงก็ตาม
อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวเพิ่มเติมว่า การสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์ที่ขาดการยั้งคิดและเต็มไปด้วยถ้อยคำรุนแรง อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกับบุคคล 3 กลุ่ม คือ:
- ผู้พูด/ผู้ส่งสาร: หากใช้อารมณ์มากกว่าสติ อาจใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาทหรือยั่วยุโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม
- ผู้ฟัง/ผู้รับสาร: หากได้รับข้อมูลที่รุนแรงอาจรู้สึกไม่พอใจ เครียด หรือวิตกกังวลจนกระทบสุขภาพจิต
- ผู้คนในสังคม: หากการสื่อสารในวงกว้างขาดความระมัดระวังและเต็มไปด้วยความขัดแย้ง อาจทำให้เกิดบรรยากาศความตึงเครียดและรู้สึกว่าสังคมไม่น่าอยู่
เพื่อรับมือกับภาวะความเครียดดังกล่าว กรมสุขภาพจิตจึงแนะนำ 5 วิธีดูแลใจ ดังนี้:
- รู้เท่าทันอารมณ์: ตระหนักรู้ถึงอารมณ์ของตนเองขณะติดตามข่าวสาร
- จำกัดเวลาติดตามข่าว: กำหนดเวลาในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างเหมาะสม ไม่หมกมุ่นมากเกินไป
- ดำรงชีวิตสมดุล: ทำกิจวัตรประจำวันให้สมดุล ไม่ละเลยหน้าที่และความรับผิดชอบ
- เคารพความคิดเห็นที่หลากหลาย: เปิดใจรับฟังและเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง
- พักผ่อนผ่อนคลายอย่างเหมาะสม: ให้เวลากับการพักผ่อนและผ่อนคลายความเครียด เช่น นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ทำสมาธิ หรือฝึกหายใจคลายเครียด
ทั้งนี้ หากพบว่าอาการเครียดมีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตหรือความสัมพันธ์กับผู้อื่น ขอให้รีบขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ณ สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง