ซีรีส์ Stranger Things ที่เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2016 ได้รับความรักอย่างท่วมท้นจากแฟนซีรีส์ทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยซีซัน 4 ซีซันล่าสุดได้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่มีจำนวนผู้ชมสูงสุดตลอดกาลของแพลตฟอร์ม Netflix และด้วยความนิยมที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นี้ เหล่านักแสดงจาก Stranger Things ทุกคนจึงได้รับการเพิ่มค่าตัวสำหรับซีรีส์ซีซันสุดท้าย
นักข่าวจาก Puck News รายงานว่า Netflix ได้แบ่งทีมนักแสดงออกเป็นลำดับในการทำข้อตกลงเรื่องค่าตัวสำหรับซีซันไฟนอล ลำดับแรกคือสองนักแสดงนำรุ่นใหญ่อย่าง Winona Ryder และ David Harbour ผู้รับบทเป็น Joyce Byers และนายอำเภอผู้แข็งแกร่ง ที่จะได้รับค่าตัวสำหรับซีซันสุดท้ายเป็นจำนวน 9.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีรายงานว่าซีซันแรก David รับค่าตัวไป 6.4 แสนดอลลาร์ ส่วน Winona รับไป 8 แสนดอลลาร์
ตามมาด้วยเหล่านักแสดงรุ่นเล็กสุดของเรื่อง ที่แฟนๆ หลงรักอย่าง Gaten Matarazzo, Sadie Sink, Caleb McLaughlin, Noah Schnapp และ Finn Wolfhard ที่จะได้รับค่าตัวสำหรับซีรีส์ซีซัน 5 จำนวน 7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีรายงานว่า Gaten, Caleb, Noah, และ Finn รับค่าตัวสำหรับซีซันแรกเพียง 1.6 แสนดอลลาร์เท่านั้น
ในขณะที่ทีมนักแสดงวัยรุ่นรุ่นพี่อย่าง Natalia Dyer, Charlie Heaton, Joe Keery และ Maya Hawke จะได้รับค่าตัวรองลงมาด้วยจำนวน 6 ล้านดอลลาร์
สำหรับลำดับสุดท้ายก็คือ Millie Bobby Brown ผู้รับบทสาวน้อยพลังจิต ‘Eleven’ มีข้อตกลงที่แตกต่างจากเพื่อนนักแสดง Stranger Things คนอื่น เพราะเธอได้เซ็นสัญญาเป็นรูปแบบแพ็กเกจกับ Netflix ที่รวมผลงานภาพยนตร์ Enola Holmes ทั้งสองภาค และภาพยนตร์เรื่องใหม่ของสองพี่น้องตระกูล Russo ซึ่งดัดแปลงมาจากกราฟิกโนเวลแนว Science Fiction นาม The Electric State ที่กำลังจะตามมาในอีกไม่นานเกินรอ โดยค่าตัวของเธอก็น่าจะสูงกว่าหลายเท่าตัวหากเทียบกับเพื่อนนักแสดงใน Stranger Things
ภาพ: Theo Wargo / Getty Images
อ้างอิง: