จากกรณีที่กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย และกลุ่ม Start Up People ได้นัดหมายจัดกิจกรรม ‘นัดรวมพลประชาชนอยากเลือกตั้ง แสดงพลังต้านสืบทอดอำนาจ คสช.’ พร้อมทั้งเปิดปราศรัยย่อยผ่านเครื่องขยายเสียงและโทรโข่งบริเวณลานสกายวอล์ก เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันเสาร์ (27 ม.ค.) ที่ผ่านมา
กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกผู้เข้าร่วมชุมนุมมารับทราบข้อกล่าวหา จำนวน 39 คน ในความผิดร่วมกันชุมนุมในรัศมี 150 เมตรจากเขตพระราชฐานตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พุทธศักราช 2558 มาตรา 7 วรรคแรก และกำลังพิจารณาที่จะออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 66 รายชื่อ
ขณะที่เมื่อวานนี้ สภานิสิตจุฬาฯ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน ประกาศขอยืนหยัดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นต่อบ้านเมือง
ล่าสุดวันนี้ สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง การแสดงจุดยืนต่อคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558 โดยมีเนื้อหาสรุปใจความสำคัญระบุว่า
สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในฐานะองค์กรดำเนินงานในด้านสิทธิและเสรีภาพมาโดยตลอด มีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558 ซึ่งมีเนื้อหาที่เป็นการขัดและส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามมาตรา 34 และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามมาตรา 44 ซึ่งได้ถูกรับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 อีกทั้งยังเป็นการละเมิดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ข้อที่ 19 และ 20 ซึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม จึงขอเรียกร้องต่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558 โดยเร็ว
และขอให้มีการยุติการตั้งข้อกล่าวหากับนักกิจกรรมที่เข้าร่วมกิจกรรม ‘นัดรวมพลประชาชนอยากเลือกตั้ง แสดงพลังต้านสืบทอดอำนาจ คสช.’ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ได้รับรองไว้ซึ่งเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ อีกทั้งเป็นไปตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ดังที่ได้กล่าวไว้ ณ ข้างต้น
ทั้งนี้ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติต้องทบทวนบทบาทของตนเองจากการกระทำดังกล่าว และไม่ละเมิดต่อการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธอันเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรอง ให้เป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดให้ ‘สิทธิมนุษยชน’ เป็นวาระแห่งชาติ ตามคำประกาศวาระแห่งชาติ สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน