วันนี้ (20 ธันวาคม) สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค, บุญยืน ศิริธรรม นายกสมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เดินทางมายื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินให้หยุดขึ้นเงินค่าผ่านทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) โดยคดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด โดยมองว่าหากยังคงปล่อยให้ขึ้นราคาดอนเมืองโทลล์เวย์จะส่งผลกระทบอันก่อให้เกิดความเดือดร้อนและเสียหายต่อประชาชนและผู้บริโภคในวงกว้าง อีกทั้งเพื่อขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาจะถึงที่สุด
เนื่องจากเมื่อวานนี้ (19 ธันวาคม) ที่รัฐสภา มานะ โลหะวณิชย์ ประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยเลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ร่วมแถลงเกี่ยวกับกรณีที่ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เตรียมปรับขึ้นค่าผ่านทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ ระบุว่าคณะกรรมาธิการฯ ได้รับข้อร้องเรียนเรื่องนี้และได้ให้ความสำคัญ จึงได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ภาครัฐ โดยเฉพาะกรมทางหลวง และผู้บริหารบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) มาชี้แจง และได้ข้อสรุปเห็นว่า
การทำสัญญาสัมปทาน 2550 มีความไม่ชอบมาพากล ทำให้รัฐมีความเสียหาย และประชาชนต้องแบกรับภาระในการปรับขึ้นค่าผ่านทาง ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 3 วันจะมีการปรับขึ้นราคา คณะกรรมาธิการฯ จึงได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี มีการระงับการปรับขึ้นค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์ พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ จะติดตามเพื่อแก้ไขให้กับประชาชนให้ได้
นอกจากนี้เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่าทางมูลนิธิฯ รู้สึกผิดหวังที่กรมทางหลวงไม่ยอมทำอะไร หลังจากที่มีคำพิพากษาศาลปกครองกลางเมื่อปี 2558 ที่ให้มีการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องสัมปทาน ซึ่งความเป็นจริงแล้วขณะนี้ประชาชนควรจะได้รับสิทธิในการใช้ทางดังกล่าวโดยที่ไม่ต้องเสียเงิน
เนื่องจากสัญญาสัมปทานได้สิ้นสุดไปตั้งแต่ปี 2557 แต่ด้วยทางบริษัทฯ ได้มีการทำตัวเลขขาดทุนที่เกินจริง ทำให้มีการขยายอายุสัญญาสัมปทานออกไปอีก 20 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2577 และยังมอบอำนาจให้เอกชนสามารถปรับขึ้นค่าผ่านทางได้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตหน่วยงานใด ดังนั้นจึงฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้รีบลงมาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวโดยด่วน อีกทั้งกรมทางหลวงควรรักษาผลประโยชน์ของประชาชนที่ใช้ทางให้มากกว่านี้ เพื่อรักษาสิทธิและคุ้มครองสิทธิของประชาชนทุกคน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์