ขณะที่กระแส Play-to-Earn ซาลงไปมาก พร้อมกับภาวะตลาดหมีในโลกคริปโต อยู่ดีๆ ก็มีกระแส Move-to-Earn จาก STEPN เข้ามาสร้างความสดใหม่ จนตอนนี้อาจกล่าวได้ว่า STEPN กลายเป็นผู้นำการหารายได้แบบ Move-to-Earn และส่งให้ซีนไลฟ์สไตล์โดดเด่นขึ้นมาในโลก Web3
Move-to-Earn ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อหารายได้ จากแต่เดิมที่ต้องเล่นเกมและได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน กลับกลายเป็นการออกกำลังกายเพื่อเก็บสถิติและแปลงตัวเลขเหล่านั้นเป็นรายได้แทน
STEPN เป็น dApp ในเครือข่าย Solana ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสร้างรายได้จากการทำกิจกรรมต่างๆ ผู้เล่นจะต้องซื้อรองเท้าผ้าใบ NFTs ให้ตรงกับกิจกรรมที่ตนสามารถทำได้ เช่น เดิน วิ่ง จ๊อกกิ้ง จากนั้นก็เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันติดตามการเคลื่อนไหวที่มีระบบ GPS ตลอดเวลา
หลังเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา STEPN มีผู้ใช้งานมากกว่า 300,000 คนต่อวัน และสามารถทำยอดขายได้สูงถึง 57 ล้านดอลล่าร์ต่อวัน ครองปริมาณการซื้อขาย NFT ส่วนใหญ่ของ Solana อ้างอิงจากข้อมูลของ Delphi Digital
Will McEvoy ผู้ร่วมงานอาวุโสของบริษัทวิจัยการลงทุนอิสระ Fundstrat เชื่อว่า STEPN มีวิถีทางที่ยาวกว่าเกม Play-to-Earn อย่าง Axie Infinity โดยแอปได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบ Play-to-Earn ปกติ มาเป็นไลฟ์สไตล์และฟิตเนสที่กระตุ้นให้ผู้ใช้หันมาออกกำลังหาย
“เส้นทางของ STEPN นั้นยาวกว่า Axie มาก” McEvoy กล่าว “นี่เป็นเพราะว่าตลาดรวมของผู้ที่ใช้ STEPN นั้นใหญ่กว่าตลาดที่ใช้ Axie ผู้คนกว่าพันล้านคนเดิน และอีกครึ่งใช้แอปติดตามการออกกำลังกายบนสมาร์ทโฟนของพวกเขา เพราะฉะนั้นมีผู้คนกว่า 500 ล้านคนเข้าร่วมได้”
STEPN ไม่ใช่เจ้าแรกเจ้าเดียวในตลาด Move-to-Earn แต่กล่าวได้ว่าเป็นโปรเจกต์ดังที่ทำให้ซีนไลฟ์สไตล์โดดเด่น ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ให้บริการแบบ Move-to-Earn มากขึ้น และดูเหมือนว่าเทรนด์นี้กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องไปอีกสักพัก
ใครที่สนใจอยากเข้าไปศึกษาโปรเจกต์ STEPN สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://stepn.com
ภาพ: STEPN
อ้างอิง: