เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าอันดับ 1 ในอาเซียนเปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโต 15-20%YoY ส่วนเป้าหมายการเติบโตรของรายได้ระยะยาวคาดเติบโต 12-15% ต่อปี และตั้งเป้า EBITDA Margin ที่ 15-18% โดยบริษัทมีกลยุทธ์เพิ่มยอดขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงอย่างเช่นกลุ่ม Medium to Extra High Voltage cables (MV-EHV) นอกจากนี้บริษัทยังใช้ประโยชน์จากโรงงานในเวียดนามที่มีต้นทุนการผลิตสินค้าที่ต่ำกว่ามาเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายตลาดใหม่นอกเหนือจากเดิม (ไทย, เวียดนาม) รวมถึงยังมีแผนทยอยคืนเงินกู้เพื่อลดดอกเบี้ยจ่าย และคาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินปันผลได้ในปี 2566
สำหรับงบลงทุนบริษัทตั้งเป้าปีละ 300-500 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยค่าบำรุงรักษาเครื่องจักรและโรงงานในไทย 3 แห่ง และเวียดนาม 1 แห่ง โดยมีกำลังผลิตทองแดงและอะลูมิเนียมรวมอยู่ที่ 1.31 และ 0.91 แสนตัน และมีอัตราใช้กำลังผลิตทองแดงและอะลูมิเนียม 52% และ 50% ตามลำดับ ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับยอดขายที่เพิ่มในอีก 5 ปีข้างหน้า
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น STARK ปรับตัวลง 4.33%WoW สู่ระดับ 4.42 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลง 2.06%WoW สู่ระดับ 1,466.98 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2563 ของ STARK โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 2563 ของบริษัทจะเติบโตก้าวกระโดด 1,179%YoY สู่ระดับ 1,585 ล้านบาท ซึ่งหากตัดรายการพิเศษออกไปจะพบว่า มีกำไรปกติปี 2563 ที่ 1,277 ล้านบาท เติบโต 750%YoY เนื่องจากมีการรวมผลการดำเนินงานของบริษัท Thipha (TPC) และ Dovina (DVN) ในเวียดนามหลังจากเข้าลงทุนเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทเฟ้ลปส์ ดอร์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) หรือ PDITL ในไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการเน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
มุมมองระยะยาว:
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของ STARK ในปี 2564 SCBS คาดกำไรจะเติบโต 38%YoY สู่ระดับ 1,761 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปีของ TPC และ DVN รวมถึงรายได้ในไทยและเวียดนามจะเติบโตดีขึ้นหลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยลง รวมถึงบริษัทมีแผนขยายตลาดใหม่ และเพิ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงควบคู่กับการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ในระยะยาวอุปสงค์สายไฟฟ้าและสายเคเบิลในไทยและเวียดนามยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีจากแผนการลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนจากภาคเอกชน อาทิ โครงการ EEC, รถยนต์ไฟฟ้า, โรงไฟฟ้า, และภาคอสังหาริมทรัพย์
ข้อมูลเพิ่มเติม:
บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ดำเนินธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าสำหรับการส่งและจ่ายกระแสไฟฟ้า และสายฟ้าทั่วไป ที่มีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในประเทศไทย ที่ให้บริการทดสอบสายไฟฟ้าแรงดันสูงแบบเคลื่อนที่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
