×

Star Wars เรียบเรียงไทม์ไลน์พร้อมเรื่องย่อครบทั้งกาแล็กซีอันไกลแสนไกล

25.05.2022
  • LOADING...
Star Wars

ซีรีส์ Obi-Wan Kenobi หนึ่งในภาคส่วนสำคัญของ Star Wars จะออกอากาศในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ และคำถามที่ตามมาก็คือ ถ้าอยากชม Star Wars ให้ได้อรรถรสที่สุดก็คือ จะเริ่มย้อนดูจากตรงไหน และซีรีส์ Obi-Wan Kenobi คือช่วงเวลาไหนในไทม์ไลน์อันยาวนานของ Star Wars 

 

สำหรับทีมที่เคยดู Star Wars แบบเรียงตามช่วงเวลาออกอากาศมาแล้ว การเริ่มต้นทำการบ้านจักรวาล Star Wars ครั้งใหม่ แนะนำให้ลองดูแบบเรียงลำดับเหตุการณ์ เพื่อจะได้เข้าใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยพลาดไป และที่สำคัญ การได้ย้อนกลับไปชมมหากาพย์ Star Wars ใหม่อีกครั้ง ก็เหมือนได้เรียกคืนความทรงจำบางส่วนที่คู่ขนานไปกับการเติบโตของชีวิตเราด้วยเช่นกัน

 

THE STANDARD POP เรียบเรียงไทม์ไลน์ไว้ให้แล้ว เพื่อที่ว่าเราอาจยกให้เดือนนี้เป็นช่วงเวลาของ Star Wars ย้อนกลับไปดูเรื่องราวในกาแล็กซีอันไกลแสนไกลอีกครั้ง

 

Star Wars

Star Wars

 

ภาพยนตร์ Star Wars ที่มีชื่อเรียกว่า Skywalker Saga รวมภาพยนตร์ 3 ไตรภาค ประกอบด้วย 9 เรื่องหลัก และ 2 เรื่องแยก

 

ไตรภาคเดิม Original 

  • Star Wars: Episode IV – A New Hope (1977)
  • Star Wars: Episode V – The Empire Strikes Back (1980)
  • Star Wars: Episode VI – Return of the Jedi (1983)

 

ไตรภาคต้น Prequel

  • Star Wars: Episode I – The Phantom Menace (1999)
  • Star Wars: Episode II – Attack of the Clones (2002)
  • Star Wars: Episode III – Revenge of the Sith (2005)

 

ไตรภาคต่อ Sequel และ ภาคแยก Anthology

  • Star Wars: Episode VII – The Force Awakens (2015)
  • (ภาคแยก) Rogue One: A Star Wars Story (2016)
  • Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi (2017)
  • (ภาคแยก) Solo: A Star Wars Story (2018)
  • Star Wars: Episode IX – The Rise of Skywalker (2019)

 

และถ้าบวกรวมส่วนต่อขยายอื่นๆ ทั้งแอนิเมชัน ซีรีส์ ก็จะทำให้ Star Wars เป็นกาแล็กซีที่ยิ่งใหญ่ไกลโพ้นตามไทม์ไลน์นี้

 

  1. Star Wars: Episode I The Phantom Menace (1999)
  2. Star Wars: Episode II Attack of the Clones (2002)
  3. แอนิเมชัน Star Wars: The Clone Wars (2008)
  4. แอนิเมชัน ซีรีส์ Star Wars: The Clone Wars (2008-2020)
  5. Star Wars: Episode III Revenge of the Sith (2005)
  6. แอนิเมชัน ซีรีส์ Star Wars: The Bad Batch (2021-ปัจจุบัน)
  7. Solo: A Star Wars Story (2018)
  8. ซีรีส์ Obi-Wan Kenobi (2022)
  9. แอนิเมชัน ซีรีส์ Star Wars: Rebels (2014-2018)
  10. ซีรีส์ Rogue One: Andor (กำหนดฉายปี 2022)
  11. Rogue One: A Star Wars Story (2016)
  12. Star Wars: Episode IV A New Hope (1977)
  13. Star Wars: Episode V The Empire Strikes Back (1980)
  14. Star Wars: Episode VI Return of the Jedi (1983)
  15. ซีรีส์ The Mandalorian (2019-ปัจจุบัน)
  16. แอนิเมชัน ซีรีส์ Star Wars: Resistance (2018-2020)
  17. ซีรีส์ The Book of Boba Fett (2021-ปัจจุบัน)
  18. Star Wars: Episode VII The Force Awakens (2015)
  19. Star Wars: Episode VIII The Last Jedi (2017)
  20. Star Wars: Episode IX The Rise of Skywalker (2019)

 

Star Wars

 

1. Star Wars: Episode I The Phantom Menace (1999)

Budget 115 m 

Box Office 1.027 bm

 

Star Wars ภาคที่เข้าฉายปลายยุค 90 วางเรื่องราวไว้ดีมาก เพราะแม้ว่าจะเป็นแฟน Star Wars อยู่แล้ว หรือจะเริ่มต้นเข้าสู่จักรวาลอันไกลโพ้น ก็สามารถดูได้สนุกคนละแบบ

 

เรื่องราวย้อนกลับไปยุคเริ่มต้นที่เราได้พบต้นกำเนิดของ R2-D2, C-3PO, อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ รวมถึงการเป็นลูกศิษย์-อาจารย์ ระหว่างโอบีวัน และอนาคิน ทั้งยังได้พบกับ ไควกอน จินน์ อาจารย์ของโอบีวัน, จาร์จาร์บิงส์, พระราชินีแพดเม่ อมิดาลา วัย 14 ปี จากดาวนาบู รวมถึงวุฒิสมาชิกพัลพาทีน ตัวละครสำคัญ 

 

สาธารณรัฐกาแล็กติก (Galactic Republic) ได้มอบภารกิจให้เจไดมาสเตอร์ไควกอน จินน์ และโอบีวัน เคโนบี คอยปกป้องพระราชินีอมิดาลา ในการเดินทางไปยุติความขัดแย้งทางการค้าด้วยวิธีทางการทูต ระหว่างทางพวกเขาได้พบกับ อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ ที่อาจเติบโตเป็นเจไดที่แข็งแกร่งที่สุด

 

Star Wars

 

2. Star Wars: Episode II Attack of the Clones (2002)

Budget 115 m 

Box Office 653.8 m

 

10 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์ The Phantom Menace อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ ได้กลับมาเจอพระราชินีอมิดาลาอีกครั้ง และเกิดเป็นความรักต้องห้ามระหว่างกัน อนาคินเป็นพาดาวันหนุ่มเลือดร้อน ทะเยอทะยาน ทะนงตน เชื่อมั่นว่าตนจะเป็นเจไดที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อรวมกับความตายของแม่ที่กลายเป็นบาดแผลในชีวิต ส่งให้เกิดแรงผลักดันบางอย่างที่เขาจะไม่ยอมให้มีการตายของคนที่รักอีก 

 

เรื่องราวในภาคนี้เน้นไปที่ความรักระหว่างแพดเม่ อมิดาลา และอนาคิน ที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทางกลับดาวนาบู การไปดาวทาทูอีน และดาวลึกลับชื่อ คามิโน และการเกิดสงครามกองทัพโคลนระหว่างเหล่าเจได กับ เคานต์ดูกู ผู้ช่วยคนสำคัญของ ดาร์ธ ซิเดียส มาสเตอร์ฝ่ายด้านมืด 

 

ที่น่าสนใจคือใน Attack of the Clones เราจะได้เห็นการต่อสู้ของโยดา วินดู ที่แสดงให้เห็นพลังอันแข็งแกร่งของเจได อย่างที่แทบไม่ได้เห็นในภาพยนตร์ภาคไหน

 

Star Wars

 

3. Star Wars: The Clone Wars (2008) 

96 min.

 

Star Wars: The Clone Wars แอนิเมชันซีรีส์ที่กำกับโดย Dave Filoni ดำเนินเรื่องราวหลังจากภาพยนตร์ Star Wars: Episode II Attack of the Clones และก่อนช่วงเวลาในภาพยนตร์ Star Wars: Episode III Revenge of the Sith

 

ระหว่างสงครามโคลน เจไดมาสเตอร์ โอบีวัน เคโนบี และอนาคิน สกายวอล์กเกอร์ ได้นำทัพโคลนของสาธารณรัฐกาแล็กติกเข้าสู่สงครามกับกองทัพโคลนของฝ่ายแบ่งแยกบนดาวเคราะห์คริสทอฟซิส

 

4. Star Wars: The Clone Wars (2008-2020)

Star Wars: The Clone Wars แอนิเมชันซีรีส์ที่ยืนระยะการออกอากาศยาวนาน โดยเน้นประเด็นความขัดแย้งระหว่างสาธารณรัฐกาแล็กติกที่ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าเจได และฝ่ายแบ่งแยกที่นำโดย ซิธลอร์ด เคานต์ดูกู ที่มีมาสเตอร์ฝ่ายด้านมืด ดาร์ธ ซิเดียส เป็นผู้สนับสนุน ต่างต้องการทำลายล้างฝ่ายตรงกันข้าม สาธารณรัฐกาแล็กติกต้องการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น ส่วนฝ่ายแบ่งแยกต้องการทำลายล้างเหล่าเจไดและรวบรวมอำนาจทั้งหมด ขึ้นเป็นใหญ่ในจักรวาล

 

Star Wars

 

5. Star Wars: Episode III Revenge of the Sith (2005)

Budget 113 m

Box Office 868.4 m

 

เป็นภาพยนตร์จบชุดแรกของไตรภาคนี้ได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะฉากต่อสู้ 30-40 นาทีสุดท้ายของภาพยนตร์ที่คุ้มค่าการรอคอย 

 

Star Wars: Episode III Revenge of the Sith เล่าเรื่อง 3 ปีหลังจาก Star Wars: Episode II Attack of the Clones การเกิดสงครามกับสมาพันธ์แบ่งแยก สภาเจไดได้ตัดสินใจส่งโอบีวัน เคโนบี ไปปราบปรามนายพลกรีวัส ที่เป็นผู้นำกองกำลังฝ่ายแบ่งแยก เพื่อยุติสงคราม และมอบหมายให้อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ไปช่วยงานสมุหนายกพัลพาทีน สาธารณรัฐกาแล็กติก  

 

เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดพลิกผันยิ่งใหญ่ เมื่อความชั่วร้ายของดาร์ธ ซิเดียสในการล่อลวงให้หลงกล การณ์เพียงพลิกนิดเดียว ฝ่ายเจไดก็กลับกลายเป็นกบฏที่ต้องทำลายให้สิ้นซาก

 

ที่น่าสนใจคือการนำธรรมะมาบวกกับคำสอนของเจได การปล่อยวางจากสิ่งยึดมั่นถือมั่น และความตายเป็นเรื่องธรรมดาโลก อยู่ในฉากที่โยดาพยายามบอกกับอนาคินว่า “ฝึกตัวเองให้ปล่อยวางจากความกลัว ความกลัวที่จะสูญเสีย” เพราะความกลัวเป็นหนทางสู่ความมืด

 

Star Wars

 

6. Star Wars: The Bad Batch (2021-ปัจจุบัน) 

แอนิเมชันซีรีส์เกี่ยวกับกองทัพโคลน Clone Force 99 ที่เรียกกันว่า The Bad Batch ที่เป็นหน่วยรบโคลนพิเศษที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม พวกเขาออกทำหน้าที่หลากหลายภารกิจหลังจากสงครามโคลน

 

Star Wars

 

7. Solo: A Star Wars Story (2018)

Budget: 275-300 m

Box Office: 393.2 m

 

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบ ฮัน โซโล, เพื่อนคู่หูชิวแบกกา และยานมิลเลนเนียมฟอลคอน ไม่ควรพลาดภาคแยกนี้

 

Solo: A Star Wars Story เล่าเรื่องราว 10 ปีก่อนเหตุการณ์ใน Star Wars: A New Hope อยู่ในช่วงวัย 18-24 ปี ของ ฮัน โซโล โดยจะขยายขอบเขตของเรื่องราวให้แฟนหนังได้รู้ว่า ก่อนจะได้พบกับ ลุค สกายวอล์กเกอร์ และ โอบีวัน เคโนบี บนดาวทาทูอีน ฮันเป็นใครมาจากไหน จุดเริ่มต้นมิตรภาพระดับแน่นเหนียวกับคู่ซี้พันธุ์ขนอย่างชิวแบกกา มีที่มาที่ไปอย่างไร ไปจนถึงรายละเอียดที่ว่า ฮัน โซโล ได้ยานเร็วแสงมิลเลนเนียมฟอลคอน จากเจ้าของเดิมอย่าง แลนโด คาลริสเซียน มาได้ด้วยวิธีไหน

 

อ่านต่อ: Han Solo: A Star Wars Story ภาคแยกที่เติมเต็มส่วนขาดหายจาก A New Hope 

 

Star Wars

 

8. Obi-Wan Kenobi (2022)

Obi-Wan Kenobi ซีรีส์ขนาด 6 ตอนจบที่ออกอากาศในปี 2022 โดยได้นักแสดงชุดเดิมมารับบทสำคัญ Ewan McGregor รับบทเจไดมาสเตอร์ โอบีวัน เคโนบี ร่วมด้วย Hayden Christensen ที่เคยรับบทอนาคิน สกายวอล์กเกอร์ ซึ่งเป็นการร่วมงานกันอีกครั้งหลังจาก 17 ปีที่แล้ว

 

ซีรีส์ Obi-Wan Kenobi จะเล่าเรื่องราว 10 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน Star Wars: Episode III – Revenge of the Sith เมื่อโอบีวันเดินทางไปดาวทาทูอีนและซ่อนตัวอย่างเงียบสงบ หลังจากเหตุการณ์ที่เขาต้องสูญเสียรุ่นน้อง ลูกศิษย์ที่รักให้กับด้านมืดไป

 

อ่านต่อ: Obi-Wan Kenobi การกลับมาของยวน แมคเกรเกอร์ กับบทโอบีวัน เจไดมาสเตอร์แห่ง Star Wars

 

Star Wars

 

9. Star Wars: Rebels (2014-2018)

แอนิเมชันซีรีส์ 3D ที่มีทั้งหมด 4 ซีซัน เล่าเรื่องราวในช่วงที่จักรวรรดิกาแล็กติกกำลังขยายอำนาจ พร้อมตามล่าทำลายล้างเหล่าเจไดให้หมดสิ้นไป ถึงอย่างนั้นกลุ่มกบฏต่อต้านจักรวรรดิก็ยังคงรวมตัวกันเพื่อต่อสู้และเรียกคืนความสงบสันติ 

 

ตัวละครสำคัญๆ ในฝ่ายจักรวรรดิ ได้แก่ จักรพรรดิพัลพาทีน และ ดาร์ธ เวเดอร์ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งคือลูกเรือยานโกสต์ ที่คอยก่อกวนแผนปฏิบัติการของจักรวรรดิ ลูกเรือทั้งหก ซึ่งเป็นตัวละครหลักๆ ใน Star Wars: Rebels ได้แก่ เคนัน อดีตพาดาวัน, เฮรา ลูกสาวผู้นำชาวทวิเลค, ซาบีน เก่งด้านอาวุธวัตถุระเบิด, เอซรา เด็กหนุ่มจากดาวโลธัล, การาเซบ จากดาวลาซาน และดรอยด์ C1-10P

 

Star Wars

 

10. Rogue One: Andor (2022)

Andor จะเป็นซีรีส์ที่ขยายเรื่องราวจากภาพยนตร์ Rogue One: A Star Wars Story โดยยังคงนักแสดงหลัก Diego Luna มารับบทเป็น แคสเซียน แอนดอร์ หน่วยข่าวกรองที่เก่งกาจของฝ่ายกบฏ

 

เล่าเรื่องราว 5 ปีก่อนเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Rogue One ซึ่งทำให้เราได้รับรู้เรื่องราวการเกิดขึ้นของฝ่ายกบฏ เนื่องจากความน่ากลัวของฝ่ายจักรวรรดิที่ยึดครองทั้งกาแล็กซีได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการรวมกลุ่มต่อต้าน เพื่องัดคานอำนาจกลับคืนมา

 

ที่น่าสนใจก็เพราะ Andor วางโปรแกรมออกอากาศไว้ในปี 2022 แล้ว โดยจะมี 12 อีพี และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเรื่องราวสำหรับซีซัน 2

 

Star Wars

 

11. Rogue One: A Star Wars Story (2016)

Budget: 200-265 m

Box Office: 1,056 m

 

กลุ่มกบฏได้วางแผนที่จะขโมยแผนโครงสร้างของ Death Star อาวุธทำลายล้างมโหฬารของจักรวรรดิกาแล็กติก ยิงครั้งเดียวดาวทั้งดวงระเบิดเป็นผุยผงในทันที

 

ตัวละครสำคัญในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ จิน (Jyn Erso) หญิงสาวที่ผ่านร้อนหนาวของชีวิตมาเพียงลำพัง หลังแม่ถูกฆ่า และพ่อโดนจับไปเป็นวิศวกรในการสร้าง Death Star ด้วยเหตุผลนี้ จินจึงเข้าร่วมกับฝ่ายกบฏเพื่อปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ พร้อมกับ แคสเซียน แอนดอร์ หน่วยข่าวกรอง นักบินฝ่ายกบฎ พร้อมด้วย เซอร์รุต อิมเว ชายตาบอดยอดฝีมือที่เชื่อในเจได รวมถึงดรอยด์ K-2S0

 

ชัยชนะของฝ่ายกบฏจึงเป็น ‘ความหวังใหม่’ ให้กับจักรวาล และเป็นภาพยนตร์ที่ส่งต่อไปยังเรื่องราวใน Star Wars: Episode IV A New Hope ที่ทำให้เราเข้าใจการถูกทำลายของ Death Star ได้มากยิ่งขึ้น

 

แน่นอนว่าฉากการต่อสู้สงครามอวกาศในภาคนี้ดุเดือดและลุ้นมาก แฟน Star Wars และถึงจะไม่ใช่ น่าจะสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้จนทำรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

 

Star Wars

 

12. Star Wars: Episode IV A New Hope (1977)

Budget: 11 m

Box Office: 755.8 m

 

ภาพยนตร์ Star Wars เรื่องแรกที่ใช้ทุนสร้างเพียง 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และออกฉายในวันที่ 25 พฤษภาคม 1977 กลายเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญของจักรวาลส Star Wars

 

ผลงานกำกับโดย George Lucas แห่งลูคัสฟิล์ม ทำให้ทีมนักแสดงดังระเบิดและกลายเป็นภาพจำของตัวละครไปโดยปริยาย Harrison Ford ในบท ฮัน โซโล, Mark Hamill ในบท ลุค สกายวอล์กเกอร์, Carrie Fisher ในบท เลอา สกายวอล์กเกอร์

 

เรื่องราวนานมาแล้วในกาแล็กซีอันไกลแสนไกล 19 ปีหลังจากเรื่องราวใน Star Wars: Episode III Revenge of the Sith จักรวรรดิกาแล็กติกครองอำนาจ ขณะที่ฝ่ายกบฏพยายามรวบรวมกำลังเพื่อเรียกร้องอิสรภาพ ลุค และเลอา สกายวอล์กเกอร์ต่างเติบโตต่างที่ ลุคอยู่ที่ดาวทาทูอีน โดยมีโอบีวัน เคโนบีคอยดูแลอยู่ห่างๆ ส่วนเจ้าหญิงเลอาเป็นหัวหน้าฝ่ายกบฏ 

 

โอบีวันกลับมาพบกับลุค สอนเขาในการเข้าถึงพลังและวิถีเจได พวกเขารวมกลุ่มกับฮัน โซโล, ชิวแบกกา และดรอยด์ R2-D2 กับ C-3PO ในการช่วยเหลือเจ้าหญิงที่โดนจักรวรรดิจับตัวไป

 

Star Wars

 

13. Star Wars: Episode V The Empire Strikes Back (1980)

Budget: 30.5 m

Box Office: 538-549 m

 

3 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน A New Hope จักรวรรดิกาแล็กติก นำโดย ดาร์ธ เวเดอร์ ได้ส่งดรอยด์ไปทั่วกาแล็กซีเพื่อตามหาตัวเจ้าหญิงเลอาและกองกำลังฝ่ายกบฏ ส่วนลุค สกายวอล์กเกอร์ ถูกจับโดยฝ่ายจักรวรรดิ แต่หนีรอดมาได้ ลุคได้รับคำแนะนำจากกายทิพย์ของโอบีวันให้เดินทางไปยังดาวเดโกบาห์ เพื่อฝึกฝนกับอัศวินเจไดผู้แข็งแกร่งชื่อ โยดา 

 

ลุคได้เรียนรู้วิถีเจได ฝึกฝนอย่างเข้มข้นกับโยดา เขาเรียนรู้พลังอันเหลือล้น และการหักห้ามความรู้สึกด้านลบที่อาจนำพาเขาไปสู่ด้านมืด ในขณะที่ฮัน โซโล, เลอา, ชิวแบกกา และดรอยด์ C-3PO หนีรอดจากพวกจักรวรรดิอีกครั้งด้วยยานมิลเลนเนียมฟอลคอน พวกเขาลองเสี่ยงดวงไปที่ดาวบีสปินที่แลนโด เพื่อนเก่าของฮัน โซโลมีอำนาจอยู่ที่นั่น 

 

ในภาคนี้เราจะได้เห็นการเผชิญหน้าระหว่างดาร์ธ เวเดอร์ และลุค สกายวอล์กเกอร์เป็นครั้งแรก รวมถึงความลับที่ลุคและเลอาไม่เคยรู้ได้ถูกเปิดเผย 

 

Star Wars

 

14. Star Wars: Episode VI Return of the Jedi (1983)

Budget: 32.5-42.7 m

Box Office: 475.1 m

 

1 ปีต่อมา แม้ว่า Death Star จะถูกทำลายลงไป แต่จักรวรรดิกาแล็กติกก็ยังคงเดินหน้าสร้าง Death Star ดวงใหม่เพื่อทำลายเหล่ากบฎให้สิ้นซาก โดยที่จักรพรรดิพัลพาทีนได้เดินทางไปตรวจการสร้างอาวุธทำลายล้างด้วยตัวเอง 

 

มีความพยายามในการโน้มน้าวให้ลุคเข้าสู่ด้านมืด ขณะเดียวกันลุคก็พยายามทำให้ดาร์ธ เวเดอร์ กลับคืนสู่แสงสว่าง เพราะยังคงมองเห็นด้านดีอยู่ในตัวของเขา

 

ในภาคนี้เราได้เห็นบทสนทนาระหว่างลุคและโยดา ซึ่งชวนให้เศร้าอยู่ไม่น้อย รวมถึงความรู้สึกอ่อนแอ หวาดกลัว ภายใต้ความแข็งแกร่งที่ห่อหุ้มอยู่ของดาร์ธ เวเดอร์ และสุดท้ายลุค สกายวอล์กเกอร์ก็สำเร็จวิชา เป็นอัศวินเจไดลูกศิษย์คนสุดท้ายของโยดา

 

Star Wars

 

15. The Mandalorian (2019-ปัจจุบัน)

สายใยพ่อลูกระหว่าง แมนโด และ เบบี้ โยดา กลายเป็นอีกเส้นเรื่องของ The Mandalorian ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมล้นหลาม ถึงแม้จะไม่ได้เล่าถึงเหล่าตัวละครหลักๆ ประจำ Star Wars เท่าไรนักก็ตาม

 

เรื่องราวของแมนโด นักล่าค่าหัวมือเซียนแห่งจักรวาล เขามีอดีตที่เจ็บปวดเพราะพ่อแม่ตายจากการถูกดรอยด์คร่าชีวิตไป แมนโดโตมากับชาวแมนดาลอร์ที่เป็นนักรบ มักสวมชุดเกราะและหน้ากากเพื่อป้องกันการจดจำใบหน้าที่แท้จริง

 

เมื่อเป็นนักล่าค่าหัว แมนโดก็ได้รับงานหนึ่งจากฝ่ายจักรวรรดิในการลักพาตัวโกรกู หรือเบบี้ โยดา ทารกโยดาตัวจิ๋ว เมื่อแมนโดรู้ว่าฝ่ายจักรวรรดิจะนำโกรกูไปทดลอง ก็เกิดอาการหัวร้อนจนยอมล้มเลิกภารกิจและสู้กลับ เขาพาโกรกูหนีไปจากการทดลองอันแสนโหดร้าย และเมื่อฝ่ายจักรวรรดิออกตามล่า สองชีวิตจึงต้องหนีเอาตัวรอด 

 

Star Wars

 

16. Star Wars: Resistance (2018-2020)

แอนิเมชัน 3D ซีรีส์ ที่ได้รับคำวิจารณ์ในทางบวกพอสมควร เล่าเรื่องราวของ Kazuda Xiono นักบินหนุ่มของกองกำลังฝ่ายกบฏของผู้นำลีอา เขาได้รับภารกิจไปสอดแนมการทำงานใน The First Order

 

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในแอนิเมชันซีรีส์ Star Wars: Resistance อยู่ระหว่างเหตุการณ์ใน Return of the Jedi และ 6 เดือนก่อนหน้าเหตุการณ์ใน The Force Awakens 

 

 

Star Wars

 

17. The Book of Boba Fett (2021)

ซีรีส์ 7 อีพีที่ Spin-off มาจากซีรีส์ The Mandalorian โดยเรื่องราวมีความเกี่ยวข้องกัน สำหรับใครที่ดูภาพยนตร์ Return of the Jedi ก็อาจจดจำ โบบา เฟตต์ ได้จากการที่เขาจับตัวฮัน โซโล ตามที่ดาร์ธ เวเดอร์มอบหมาย และโบบา เฟตต์ ก็เป็นคนนำร่างแช่แข็งฮัน โซโล ไปส่งมอบให้กับ Jabba the Hutt ขาใหญ่แห่งดาวทาทูอีน และสุดท้ายโบบา เฟตต์ก็โดนโยนลงท้องของสัตว์ประหลาดทะเลทราย

 

สำหรับซีรีส์ The Book of Boba Fett ดำเนินเรื่องราวชีวิตของ โบบา เฟตต์ ที่ฟื้นคืนสติขึ้นมาในท้องของสัตว์ประหลาด ไม่เหลือทั้งหน้ากากและชุดเกราะจนถูกนำตัวไปเป็นทาส แต่เมื่อหัวหน้าเผ่าทัสเคนเห็นฝีมือการต่อสู้จึงยอมรับเขาเข้าร่วม สุดท้ายโบบา เฟตต์ ได้ขึ้นเป็นผู้นำของดาวทาทูอีน ท่ามกลางความขัดแย้งกับกลุ่มต่างๆ ที่มองหาผลประโยชน์จากทรัพยากรบนดาวทาทูอีนแห่งนี้

 

Star Wars

 

18. Star Wars: Episode VII The Force Awakens (2015)

Budget: 306 m

Box Office: 2,068 m

 

จะเรียกว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของไตรภาค Skywalker Saga ก็ไม่น่าผิดนัก เพราะผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ในชุดนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ด้วยเวทมนตร์ของผู้กำกับ J.J. Abrams พุ่งขึ้นเป็นภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดของจักรวาล Star Wars

 

เรื่องราว 30 ปีให้หลังจาก Return of the Jedi เล่าถึงหญิงสาวชื่อเรย์ ที่ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวกลางทะเลทราย เธอได้พบกับดรอยด์ BB-8 ที่เก็บข้อมูลลับสุดยอดของฝ่ายกบฏเอาไว้ จนทำให้ฝ่ายจักรวรรดิออกตามล่าหาตัวมันให้ได้ 

ขณะเดียวกันโพ ที่โดนจับตัวไป ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก ฟิน นักการทรยศของจักรวรรดิ ในที่สุดพวกเขาก็ได้ร่วมมือกับฮัน โซโล และลีอา ผู้นำฝ่ายกบฏในการออกตามหาแผนที่ที่ลุค สกายวอล์กเกอร์ ซ่อนตัวอยู่

 

เบน​ โซโล ลูกชายของฮันและลีอา ยอมรับตัวเองเข้าสู่ด้านมืด กลายเป็น ไคโล เรน อันเป็นต้นเหตุการหายตัวไปของลุค ส่วนเรย์ได้ค้นพบพลังในตัวเอง และยังได้ครอบครองไลต์ เซเบอร์ของลุค สกายวอล์กเกอร์ เธอพัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็วจน Snoke ผู้นำสูงสุดของ The First Order ต้องการตัวมาอยู่ฝ่ายเดียวกัน 

 

Star Wars

 

19. Star Wars: Episode VIII The Last Jedi (2017)

Budget: 200-317 m

Box Office: 1,333 m

 

นายพลเลอา ฟินน์ และโพ ดาเมรอน พยายามหลบหนีจาก The First Order ไคโล เรน ตามรอยพวกเขาพบ แต่ก็เกิดความลังเลเมื่อรู้ว่าแม่ของเขาอยู่ในยานลำนั้นและไม่อาจทำลายล้างมันลงได้ 

 

เรย์เดินทางไปตามแผนที่ จนได้พบกับลุค สกายวอล์กเกอร์ ช่วงต้นของหนังเป็นการฝึกวิชาเจได ที่ลุคยอมรับเรย์เป็นลูกศิษย์ เพื่อช่วยให้ฝ่ายต่อต้านมีความหวังที่จะต่อสู้กับ The First Order ส่วนตัวเขาเองยังคงคิดว่าเจไดเป็นความล้มเหลว จึงปฏิเสธที่จะกลับร่วมการต่อสู้กับฝ่ายต่อต้าน

 

ระหว่างการฝึกฝน เรย์และไคโล เรน ติดต่อกันผ่านพลัง จนเกิดความรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นระหว่างพวกเขา เรย์รับรู้ได้ว่าไคโล เรนยังคงมีด้านสว่างอยู่ในตัวเขา จึงออกเดินทางไปช่วยให้เขากลับใจ เป็นการเดินทางที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกาแล็กซี

 

นอกจากนี้ The Last Jedi ยังมีความสำคัญในการเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของ Carrie Fisher ผู้รับบทเจ้าหญิงเลอา ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตในปี 2016

 

Star Wars

 

20. Star Wars: Episode IX The Rise of Skywalker (2019)

Budget: 275 m

Box Office: 1,074 m

 

ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของ 3 ไตรภาคที่เป็นการปิดฉาก Skywalker Saga ได้อย่างลงตัวที่สุด เล่าเรื่องราวของไคโล เรน และเรย์ ที่มีจิตสื่อถึงกัน ขณะเดียวกันก็ยืนอยู่บนคนละเส้นทาง ความมืด-ความสว่าง

 

The Rise of Skywalker ดำเนินเรื่องต่อจาก The Last Jedi เหตุการณ์ 1 ปีให้หลัง เมื่อ เรย์ ฟินน์ และ โพ ดาเมรอนได้ร่วมกันนำกองทัพฝ่ายต่อต้าน ต่อสู้กับ The First Order ที่มีผู้นำสูงสุด Snoke และจักรพรรดิพัลพาทีนที่กลับมาจากโลกหลังความตาย 

 

ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร

ภาพ: Disney+

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X