มีอะไรในงาน Star Wars Celebration 2022 ที่ทำให้จักรวาล Star Wars เป็นมากกว่าความบันเทิง

Star Wars Celebration 2022 จัดขึ้นที่ Anaheim Convention Center ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 27-30 พฤษภาคม 2022 เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากทั้งโลกประสบกับความยากลำบากจากสถานการณ์โควิด การมาถึงของงานนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับการเริ่มต้นใหม่ๆ ทั้งสำหรับทีมผู้สร้าง-ผู้ผลิตคอนเทนต์ และแฟน Star Wars ทั่วโลก

THE STANDARD POP ได้รับเชิญเข้าร่วมงาน Star Wars Celebration 2022 ร่วมกับผู้สื่อข่าวจากทั่วโลก เป็นโอกาสที่ทำให้ได้เข้าใจ ได้เรียนรู้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล Star Wars คล้ายๆ เป็นคนใหม่ในครอบครัวที่ได้รับความประทับใจและข้อมูลเชิงลึกอย่างมากมายตลอดเวลา 4 วันเต็มของงานฉลอง 

และนั่นทำให้เราค้นพบเหตุผลว่า ทำไมงาน Star Wars Celebration ถึงได้เป็นมากกว่างานฉลองประจำปี และสำหรับแฟน Star Wars ตัวจริงเสียงจริง ครั้งหนึ่งในชีวิตควรได้ไปเยี่ยมชมงานนี้สักครั้ง และเราจะโคจรอยู่ในจักรวาล Star Wars ต่อไปอีกนานแสนนาน

01 Star Wars Celebration คืออะไร?

Star Wars Celebration คืองานฉลองที่แฟน Star Wars จะมารวมตัวกัน พบปะพูดคุย ร่วมรับรู้โปรเจ็กต์ใหม่ๆ พร้อม Sneak Peak ก่อนใคร ได้เจอเหล่าตัวละครที่รัก ได้ช้อปปิ้งของสะสมทั้งวินเทจและรุ่นใหม่ ใช้เวลาไปกับกิจกรรมมากมายที่จัดขึ้นร่วมกับแฟนๆ ทั่วโลก 

โดยงาน Star Wars Celebration เริ่มจัดขึ้นปีแรก 1999 ที่เดนเวอร์ รัฐโคโลราโด โดยทาง Lucasfilm ได้จัดงานขึ้นก่อนหน้าวันเปิดตัว Star Wars: Episode I – The Phantom Menace ซึ่งแค่เพียงปีแรกก็มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 20,000 คน

ในช่วงปีแรกของการจัดงานมักจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการเข้าฉายภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นปี 2002 ที่ภาพยนตร์ Star Wars: Episode II – Attack of the Clones เข้าฉาย, ปี 2005 Star Wars: Episode III – Revenge of the Sith และจัดเป็นประจำเกือบทุกปีตามอีเวนต์สำคัญของ Star Wars นอกจากนี้ เพื่อเสิร์ฟแฟน Star Wars ทั่วโลก ก็เคยมีการจัดงานที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ, ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเยอรมนีอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจ รอไปร่วมงาน Star Wars Celebration 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ภายในงาน Star Wars Celebration มีการแบ่งบริเวณจัดงานออกเป็นหลายส่วน ทั้งเวทีหลักที่ใช้ในการเปิดงาน ฉายภาพยนตร์ สัมภาษณ์พิเศษ สัมมนาเบื้องหลังงานสร้าง ฯลฯ ส่วนเวทีรองๆ ลงมาก็มีหัวข้อสนทนาที่หลากหลาย ตามการขยายจักรวาล Star Wars ออกไป ทั้งเรื่องของซีรีส์แอนิเมชัน หนังสือ การ์ตูน ของสะสม ทั้งยังมีเวทีพูดคุย บริเวณการจัดพอดแคสต์เชิงลึกของงาน ฮอลล์สำหรับถ่ายรูปพร้อมลายเซ็นจากศิลปินคนโปรด ทั่วบริเวณงานจะมีจุดถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกของงาน และฮอลล์สำหรับสินค้า Star Wars ทุกรูปแบบให้เลือกสรร 

ที่ว้าวมากเห็นจะเป็นงานที่จัดสำหรับเด็กๆ และหนุ่มสาวสมัยใหม่ ทั้งการสอนโอริกามิ สอนภาษาต่างดาว สอนการใช้ดาบสำหรับเจไดเด็ก สอนเกี่ยวกับดรอยด์ ไปจนถึงงานสักลาย Star Wars วาดภาพเหมือน ทำเสื้อแบบ Custom เรียกได้ว่าถ้าคุณเป็นแฟน Star Wars ก็เตรียมล้มละลายได้เลย เพราะทุกอย่างดูเหมือนจะเรียกให้เราเข้าไปเอาพวกเขากลับบ้านไปด้วย

ความคลั่งไคล้ใน Star Wars โดยเฉพาะในงานนี้ เราจะเห็นการแต่งคอสเพลย์กันแบบที่จริงจังสุดๆ เราจะได้เห็นเจไดเดินกันให้ทั่วงาน พอๆ กับเหล่าทหารโคลน โบบา เฟตต์ แมนดาโลเรียนที่มาพร้อมกับเบบี้โยดา รวมถึงตัวละครอีกมากมายที่ทำให้งานคอสเพลย์ในงานนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพราะไม่ว่าจะแต่งตัวมาเป็นใคร ต่างก็พร้อมจะไปถ่ายรูปคู่กันเป็นที่ระลึกอย่างที่ไม่แบ่งแยกฝ่ายมืด ฝ่ายสว่าง

02 ความหมายของ May the force be with you.

อย่างแรกเราคงต้องเริ่มต้นทำความเข้าใจความหมายของประโยคฮิตที่ว่า May the force be with you กันในอีกรูปแบบที่อาจจะแตกต่างจากใน Star Wars ในงาน Star Wars Celebration ความหมายของมันก็คือ ‘พลัง’ ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของผู้คนที่มีความรักให้กับสิ่งเดียวกัน พลังที่ส่งต่อให้กันและกันได้ เสียงปรบมือ การยืนปรบมือก็เป็นพลังที่ส่งต่อให้ทีมงาน นักแสดง และคนที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นมีความหมาย และเป็นพลังให้กับคนที่ดูอยู่ในที่ต่างๆ ทั่วโลกอย่างไร

พลังที่ทำให้จักรวาล Star Wars ยืนยาว แตกแขนง ขยายขอบเขตเรื่องราวไปได้ไม่มีจุดสิ้นสุด และแม้ว่าเราจะรู้กันว่า George Lucas ได้ส่งมอบ Star Wars ให้กับ Disney ไปตั้งแต่ปี 2012 ตามข่าวบอกว่าเขาวางมือและเกษียณจากการทำงานแล้ว แต่บนเวทีสัมมนา Behind the Scenes of the Mandalorian & The Book of Boba Fett คนที่เคยร่วมงานกับ George อย่าง John Rosengrant (Legacy Effects หนึ่งในผู้สร้างสรรค์โกรกูหรือเบบี้โยดา) ได้เล่าให้ฟังว่า George อาจจะวางมือ แต่ในความเป็นจริง อะไรก็หยุดเขาจากการทำงานไม่ได้ และแน่นอนว่าเขายังเคยมาที่กองถ่ายทำ The Mandalorian และอุ้มเบบี้โยดาเหมือนกัน

03 Star Wars Celebration คือชุมชนที่อยากเห็นสังคมที่ดีขึ้น

ท่ามกลางข่าว Asian Hate การแบ่งแยกสีผิว ความเชื่อ ค่านิยม เราต้องถอดชุดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปให้หมด ก่อนจะเดินผ่านประตูตรวจโลหะเพื่อเข้างาน และกลายเป็นส่วนหนึ่งในจักรวาล Star Wars ไม่ว่าจะเป็นคนจากดาวนาบู พ่อค้าจากดาวทาทูอีน หุ่นสังหาร ดรอยด์ หรือกองทัพโคลน และยึดถือกฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกัน

เราจะได้เห็นป้ายติดตั้งอยู่ทั่วบริเวณการจัดงานว่าจะไม่มีการแบ่งแยก ด้อยค่า หรือปล่อย Hate Speech รวมถึงการกระทำไม่สมควร ทั้งในแง่ของเพศสภาพ อายุ สีผิว เชื้อชาติ​ ศาสนา เช่นเดียวกับแอปพลิเคชันของงานที่นอกจากแสดงแผนที่และเวลาเริ่มงานสัมมนาต่างๆ แล้ว ยังมีหมวดหมู่ในการแจ้งเจ้าหน้าที่หากถูกกระทำที่ไม่สมควรภายในงานอีกด้วย

เหล่านี้กลายเป็นวัฒนธรรมของจักรวาล Star Wars ไปแล้ว โดยเฉพาะสปีชเปิดงานของ Kathleen Kennedy ประธาน Lucasfilm ที่ว่า “เรารอถึง 3 ปีกว่าจะได้กลับมาอีกครั้ง ได้พบกันอีกครั้ง และมีความสุขกับช่วงเวลานี้ด้วยกัน Star Wars เป็นชุมชนที่รวมเอาผู้คนมาอยู่ด้วยกัน และแสดงให้เห็นถึงพลังของความรัก เรามาทำให้ประโยคว่า do Star Wars together เป็นคำกริยาที่เข้าใจได้ร่วมกันเถอะค่ะ”

04 ความพิเศษของ Star Wars Celebration ที่ทำให้แฟน Star Wars ยังไงก็ต้องมา

• Star Wars มอบของขวัญพิเศษให้แฟนๆ แบบจัดใหญ่จัดเต็มเสมอ ในปีนี้พวกเขาได้ขนเอาพร็อพจริงที่ใช้ในการถ่ายทำมาจัดแสดงให้ได้ดู ได้ถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นรถที่ใช้ หุ่นโคลน เสื้อผ้า อาวุธ มาจัดแสดงให้ดู พร้อมด้วย Installation ขนาดใหญ่ของ TIE ยานรบฝ่ายจักรวรรดิกาแล็กติก

• The Mandalorian Experience นิทรรศการจัดแสดงเบื้องหลังงานสร้างซีรีส์ The Mandalorian แบบที่คนไม่ใช่แฟน Mando+ ก็จะเข้าใจและหลงรักความทุ่มเทในการทำงานได้ เพราะมันเต็มไปด้วยรายละเอียดในการสร้างสรรค์ให้เกิดตัวละคร พร้อมทั้งพร็อพที่ใช้จริงในการถ่ายทำให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด

• การได้ฟังวงออร์เคสตราเต็มแบนด์เล่นเพลงธีม Star Wars ที่ชวนน้ำตาไหล ควบคุมวงโดย John Williams ผู้แต่งธีมเพลง Star Wars มาตั้งแต่เริ่มต้น นับเป็นช่วงเวลาที่แฟน Star Wars ทุกคนต้องลุกขึ้นปรบมือ

• ตั๋วเข้างานมีหลายแบบ ทั้งแบบรายวัน (80 USD) แบบเข้างานสี่วัน (195 USD) และแบบ Jedi Master (900 USD) เข้างานได้ทุกวัน ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย และเป็นโอกาสที่เราจะได้พบเพื่อนใหม่ที่รักในสิ่งเดียวกัน

• ความพิเศษของตั๋วคือเปิดให้เราได้เข้าไปร่วมงานยามค่ำคืน Disney After Dark ใน Disneyland Park ที่เรียกว่า จัดเป็นพิเศษสำหรับแฟน Star Wars ให้ได้เล่นเครื่องเล่นเด็ดๆ Rise of the Resistance ที่อยู่ในโซน Star Wars: Galaxy’s Edge ไม่ว่าจะเป็นการไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์การต่อสู้ระหว่างฝ่ายต่อต้านและ The First Order, ไปลองรับบทนักบินในเครื่องเล่น Millennium Falcon Smuggler Run ที่บอกเลยว่าสนุกมาก หรือจะหลงเข้าไปในยานของไคโร เรน กับเครื่องเล่น Kylo Ren Ship และอีกมากมายหลายบริเวณ รวมถึงการชุมนุมของเหล่าเจได ที่จะมาร่วมกันเปิดไฟดาบไลท์เซเบอร์ให้กลางคืนสุดทรงพลัง

• ได้ชิมเมนูพิเศษที่ทาง Disneyland Park ทำขึ้นเพื่องาน Star Wars Celebration โดยเฉพาะ สำหรับปีนี้เป็นแซนด์วิชหมูทอดที่มาพร้อมซอสรสอร่อยอย่างประหลาดราวกับอยู่บนดาวทาทูอีน พร้อมโรยแคปหมูด้านบน

• โปสเตอร์พิเศษที่ได้รับก่อนใคร ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์ Andor, The High Republic, Obi-Wan Kenobi รวมถึงซุ้มถ่ายรูปพร้อมลายเซ็นนักแสดงที่เรารักจัดแยกเป็นโซนพิเศษภายในงาน

• ได้ความรู้เกี่ยวกับ Star Wars เชิงลึกอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหนังสือ การ์ตูน ของเล่น ของสะสมชิ้นพิเศษ ที่จัดขึ้นหลายเวทีให้เลือกสรร และที่นั่นเราก็จะได้เจอกับตัวจริงเสียงจริงในเรื่องนั้น พร้อมกับการพูดคุยที่ไม่มีใครอยากให้จบ

• ได้เตรียมพร้อมสู่การแตกแขนงของจักรวาล Star Wars ออกไปไม่จบสิ้น ด้วยคอนเทนต์น่าสนใจที่หยิบเอาช่วงเวลาและตัวละครขึ้นมาเป็นเรื่องราวได้อย่างน่าทึ่ง เหมือนเป็นเวทมนตร์ของ Lucasfilm ที่เกิดขึ้นร่วมกับ Disney+ ที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ขึ้นมา

05 ความผูกพันของผู้คนที่เชื่อมโยงกันเป็นครอบครัวด้วยจักรวาล Star Wars

ในงาน Star Wars Celebration เราอาจได้พบเพื่อนใหม่ที่รักในเรื่องเดียวกัน หรือเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว แม้ว่าแต่ละเวทีจะต้องเข้าคิวค่อนข้างนาน แต่ระหว่างนั้นเราจะได้พบมิตรภาพใหม่ๆ เหมือนที่เราได้อยู่ร่วมในความผูกพันนั้น อย่างเช่น แฟน Star Wars จากฟลอริดา ที่มางานนี้ตัวคนเดียว และมาเจอกับเพื่อนใหม่จากแคนาดาที่ต่างเป็นแฟนเครื่องเล่น Star Wars ใน Disneyland ขนาดที่ว่าเล่นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 25 รอบ พวกเขาพูดเหมือนกันว่างานในปีนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกร่วม เพราะครั้งล่าสุดที่ได้มางาน Star Wars ก็เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

ไม่ใช่แค่คนที่มาร่วมงาน แต่กระทั่งทีมงานและนักแสดงเอง งาน Star Wars Celebration ในปีนี้คือการได้พบหน้าพร้อมกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการ เพราะก่อนหน้านี้ Disney เองก็ประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิดไม่ต่างกัน เราจึงได้เห็นความรู้สึกจับใจที่นักแสดงและทีมเบื้องหลังได้รับจากเสียงปรบมือ เสียงตะโกนแสดงความดีใจ รวมถึงการที่เหล่านักแสดงและผู้สร้างได้กลับมาเจอกัน ได้โอบกอดกันอีกครั้ง ถ่ายรูปร่วมกันอีกครั้งโดยไม่ต้องผ่านโปรแกรมวิดีโอคอลใดๆ 

06 คนเจ๋งๆ บนเวที แบบที่อายุทำอะไรพวกเขาไม่ได้เลย

น่าประทับใจแค่ไหนที่เรายังเห็นการให้เกียรติผู้คนบนเวที Star Wars Celebration โดยเฉพาะในโลกที่กำลังหมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นักแสดง ทีมงานหน้าใหม่เข้ามาทำงานมากขึ้น แต่กับ Lucasfilm บุคคลสำคัญที่เริ่มทำงานมาตั้งแต่ต้นได้กลายเป็นตำนานในระดับมาสเตอร์เจได ที่ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการทำงาน ในการให้คำปรึกษา และส่งต่อความรู้ไปยังคนรุ่นใหม่

ในงาน Star Wars Celebration 2022 เราได้พบกับตำนาน Star Wars มากมาย

• John Williams นักประพันธ์เพลง คอนดักเตอร์ที่มีผลงานระดับขึ้นหิ้งอีกมากชนิดว่าพิมพ์ไม่หมด ในวัย 90 ปี เขายังคงมีไฟในการแต่งเพลงใหม่ๆ รวมถึงธีมเพลงให้กับซีรีส์ Obi-Wan Kenobi และยังมาควบคุมวงออร์เคสตราให้ได้ฟังกันในงาน และสำหรับแฟน Star Wars ก็คือตายตาหลับแล้ว
• Harrison Ford พระเอกตลอดกาลในวัย 79 ปี ยังคงมาประกาศฉายภาพยนตร์ Indiana Jones 5 ด้วยตัวเอง
• Ron Howard ผู้กำกับในวัย 68 ปี เจ้าของผลงานภาพยนตร์ Solo: A Star Wars Story มาร่วมเล่าประสบการณ์การทำงานให้ฟัง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของ Light & Magic สารคดีซีรีส์เบื้องหลังเวทมนตร์ของ Lucas Film
• Ian McDiarmid ผู้กำกับ นักแสดงวัย 77 ปี ผู้รับบทตัวร้ายแห่งชาติ The Sith Lord ที่ยังคงร่วมแสดงในซีรีส์ Obi-Wan Kenobi ที่เพิ่งออกอากาศในตอนนี้ด้วย เขามาเล่าประสบการณ์การรับบทนี้ ตอบคำถามคาใจแฟนๆ ที่หลายเรื่องไม่มีใครรู้มาก่อน 
• Dave Filoni และ Jon Favreau สองผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังจักรวาลสมัยใหม่ของ Star Wars ที่ทั้งคู่มีภาพยนตร์ Star Wars เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตไม่ต่างกัน
• รวมถึงผู้คนที่อยู่เบื้องหลังงานสร้างจำนวนมากมายที่มาบอกเล่าการทำงานของพวกเขากับ George Lucas ในแง่มุมต่างๆ และทำให้เราได้มองเห็นความใส่ใจในรายละเอียด การคิดเหนือชั้น ความสร้างสรรค์ และบ้ามากกับการทำสิ่งที่เหลือเชื่อให้เกิดขึ้นได้จริงในการถ่ายทำภาพยนตร์ ซีรีส์ แอนิเมชัน และคอนเทนต์อีกมากมายในจักรวาล Star Wars

07 จากฮอลลีวูดสู่ความหมายของ Star Wars ทั่วโลก

Star Wars Vision คือการเปิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ ไปสู่ดินแดนอื่นที่ Star Wars เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาเช่นกัน 

ที่น่าสนใจมากๆ คือการที่ Star Wars ส่วนต่อขยายได้เชื่อมต่อโลกของคนรัก Star Wars เข้าด้วยกัน เพราะ Star Wars Vision เป็นโปรเจ็กต์ในการทำงานร่วมกันระหว่าง Lucasfilm Animation และสตูดิโอในต่างประเทศ โดยซีซันแรก Star Wars Vision ร่วมงานกับสตูดิโอแอนิเมชัน 7 แห่งในญี่ปุ่น ผลิตแอนิเมชันขนาดสั้น 9 เรื่อง ออกอากาศในปี 2021 และในปี 2023 จะมี Star Wars Vision 2 ที่จะเป็นการร่วมงานกับสตูดิโอแอนิเมชันจากทั้งอินเดีย ญี่ปุ่น อังกฤษ สเปน ชิลี เป็นต้น

บนเวที Star Wars Vision โปรดิวเซอร์ได้เล่าถึงอดีตที่ผ่านมาว่า George Lucas เคยอยากเห็น Star Wars กลายเป็นแอนิเมชันญี่ปุ่น เพราะด้วยเอกลักษณ์ของงานแอนิเมชันแบบญี่ปุ่นที่ไม่มีใครทำได้ และเมื่อ Lucasfilm ได้มาร่วมกับ Disney+ ก็เป็นเหมือนการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ผนวกรวมเอาวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน เพราะสำหรับ Star Wars แล้วมีแฟนๆ กระจายอยู่ทั่วโลก และแต่ละสตูดิโอแอนิเมชันในญี่ปุ่นต่างก็เป็นแฟนตัวจริงของ Star Wars ไม่แพ้กัน

Star Wars ในญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ทำงานร่วมกับสตูดิโอแอนิเมชัน แต่ยังมีการร่วมมือกับ Bandai ในการผลิตตัวละครให้มีอยู่จริง อย่างเช่นตัวซามูไรจาก The Duel 

08 Star Wars New Era เดินทางสู่จักรวาลใหม่ Star Wars

สำหรับ Star Wars ที่เข้าฉายภาพยนตร์เป็นครั้งแรก A New Hope ในปี 1977 เมื่อนับมาถึงทุกวันนี้ก็ผ่านร้อนหนาวมากว่า 40 ปี และเป็นวัฒนธรรมป๊อปสำคัญให้กับผู้คนในยุคนั้นมาจนถึงจุดสิ้นสุดของ 3 ไตรภาค ในปี 2019 ภาพยนตร์ The Rise of Skywalker

ความเป็นไปได้ที่ตำนานน่าจะเริ่มเลือนหาย แต่กับ Star Wars ไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งแกนหลักในการเสกเวทมนตร์ให้ Star Wars ยุคสมัยใหม่ก็คือคนทำงานที่มาช่วยกันทำให้คอนเทนต์ที่มีอิทธิพลต่อพวกเขาขยายจักรวาลออกไปไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะการทำงานของสองโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ Jon Favreau และ Dave Filoni ที่ผลิตซีรีส์ภาคแยก The Mandalorian และ The Book of Boba Fett

ภายในงาน Star Wars Celebration ก็มีการสานต่อจักรวาล Star Wars ด้วยการเชื่อมโยงเด็กรุ่นใหม่ให้เป็นส่วนเดียวกัน ทั้งกิจกรรมสำหรับเด็กเล็ก การประกวดหุ่นดรอยด์ของนักเรียนนักศึกษา การส่งต่อความรู้เรื่องเทคนิคงานสร้างต่างๆ อีกด้วย ดังนั้นการได้เห็นทั้งครอบครัวมาร่วมงานพร้อมกันจึงเป็นเรื่องปกติ 

และเหล่านี้คือสิ่งที่เราได้เก็บเกี่ยวแล้วทำความเข้าใจว่า ถึงตอนนี้ Star Wars ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่าความบันเทิงไปแล้ว 

พบกันใหม่ปีหน้าที่ Star Wars Celebration 2023 ที่ลอนดอน May the force be with you.

ภาพ: เจิมสิริ เหลืองศุภภรณ์, Star Wars