ในฐานะนักเขียนและผู้ประกอบการ Jeff Goins ได้เขียนบนเว็บไซต์ Entrepreneur ว่า เขาสนใจวิธีที่สร้างสรรค์ผลงานสำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อนำไปสู่ความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ แต่เมื่อมองดูเรื่องราวของ Star Wars ทำให้ได้เห็น 3 บทเรียนชัดเจนสำหรับผู้ประกอบการที่ จอร์จ ลูคัส ดูเหมือนจะลืมไปในช่วงหลังของอาชีพของเขา
1. อย่าหยุดการเสี่ยงโชค
จอร์จ ลูคัส เป็นนักศึกษาภาพยนตร์ที่มีความคิดอิสระจากแคลิฟอร์เนีย ซึ่งไม่ยอมผูกติดกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เขาเชื่อในเวทมนตร์ของการสร้างภาพยนตร์และต้องการแบ่งปันความหลงใหลนั้นกับโลก แต่เขาเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้กำกับที่ทดลองมากมาย
หลังจากเรียนจบ ลูคัสทำงานเป็นผู้ช่วยให้กับ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ผู้กำกับ The Godfather และทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกัน พวกเขาร่วมมือกันในโครงการต่างๆ ตลอดชีวิต ลูคัสสร้าง THX 1138 ภาพยนตร์ดิสโทเปียงบประมาณต่ำ ตามด้วย American Graffiti ภาพยนตร์เรื่องราวช่วงวัยรุ่นในฤดูร้อนปี 1962 ที่อิงจากชีวิตวัยรุ่นของเขาเอง จากนั้นจึงเป็น Star Wars
ลูคัสทดลองจนพบสิ่งที่ติดตลาด และนั่นคือบทเรียนสำคัญ ความยากคือการหาวิธีรักษาความได้เปรียบนี้และไม่ให้สูญหายหลังจากความสำเร็จมาถึง ต่อมาคอปโปลาสะท้อนในบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับความสำเร็จของเพื่อนว่า “จอร์จ ลูคัส เป็นคนบ้าที่ชอบทดลอง และเขาติดอยู่ในกับดักของการสร้างผลงานฟอร์มยักษ์และไม่เคยหลุดออกมา ผมยังหวังว่าเขาจะทำภาพยนตร์เล็กๆ หลังจากที่ได้เงินมากมายจากมัน”
2. ใช้ประโยชน์จากข้อจำกัด
ในช่วงเวลาที่ภาพยนตร์ 2001: A Space Odyssey ของ สแตนลีย์ คูบริก ได้กำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับเทคนิคพิเศษในการทำภาพยนตร์ ลูคัสกังวลเกี่ยวกับทรัพยากรที่จำกัดในการทำภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ของเขา แท้จริงแล้วเขารู้สึกไม่มั่นใจมากเกี่ยวกับกราฟิกใน Star Wars จนเขาตัดต่ออย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ผู้ชมสังเกตเห็น
ในความเป็นจริง นี่เป็นส่วนหนึ่งในเสน่ห์ของ Star Wars ความลึกลับ ‘ความแข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Star Wars’ คริส เทย์เลอร์ เขียนในหนังสือ How Star Wars Conquered the Universe คือ ‘สิ่งที่มันไม่ได้บอกคุณ’ ดาบไลต์เซเบอร์ พลังแห่งแรงดึงดูด พลังงานแห่งความดีและความชั่วที่คลุมเครือ
ทั้งหมดนี้ทำให้สร้างสรรค์สิ่งที่น่าจดจำและมีความหมายมากขึ้นสำหรับผู้คนนับล้าน มากกว่ากราฟิกคอมพิวเตอร์แอนิเมชันที่มากเกินไป ซึ่งเราเห็นในภาพยนตร์เรื่องใหม่ๆ
ในทางตรงกันข้าม สิ่งที่ทำให้ภาคก่อนๆ ไม่น่าสนใจมากนักคือการที่ไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะทั้งงบลงทุนที่ทุ่มไม่อั้นหรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีมากมาย ทว่ากลับนำไปสู่ไตรภาคที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่ประทับใจ
เมื่อพูดถึงอุปสรรค เราต้องระวังการหลงเชื่อว่า ‘มาก’ หมายถึง ‘ดีกว่า’ งบประมาณมากขึ้น เทคโนโลยีมากขึ้น ทีมงานมากขึ้น สิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า แต่บางครั้งพวกมันก็ไม่ใช่ ดังนั้นใช้สิ่งที่คุณมีเพื่อทลายกำแพงที่ขวางคุณอยู่
3. ฟังเสียงลูกค้าของคุณ
หลังจากที่ จอร์จ ลูคัส ปรับแต่ง Star Wars ให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์เดิมของเขา และปล่อยภาพยนตร์ออกมาอีก 3 เรื่อง ทว่าแฟนๆ หลายคนไม่พอใจ จนลูคัสกล่าวว่า เขาจะไม่ทำภาพยนตร์ Star Wars อีก โดยยอมรับว่าเขารู้สึกหงุดหงิดกับการถูกวิจารณ์ไม่ว่าเขาจะทำอะไร
สารคดีเรื่อง The People vs. George Lucas ได้เล่าถึงความไม่พอใจกับผู้ที่ทั้งสร้างและในความคิดของบางคนทำลายล้าง Star Wars บทเรียนที่นี่คือง่าย อย่าลืมที่คุณมาจากไหน, อย่าให้ความคิดของตัวเองยิ่งใหญ่จนห่างเหินจากลูกค้าของคุณ, ความคิดสร้างสรรค์เป็นการทำงานร่วมกัน และธุรกิจจะไม่เจริญเติบโตหากไม่เข้าใจว่าตลาดต้องการอะไร
ข้อคิดสำหรับผู้ประกอบการและคนที่มีความคิดสร้างสรรค์คือ อย่าลืมต้นกำเนิดของคุณ และอย่าพอใจกับสิ่งที่มีอยู่มากเกินไป สิ่งที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จมาจนถึงวันนี้ อาจเป็นสิ่งเดียวกันกับที่จะช่วยให้ความสำเร็จของคุณยั่งยืนไปอีกหลายรุ่น
อ้างอิง:
