วันนี้ (15 มกราคม) สุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม เปิดเผยถึงมติคณะกรรมการประกันสังคมในคราวประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 ว่าที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ ปี 2563 ให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญาในระบบประกันสังคมในปี 2563 ซึ่งปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมมีสถานพยาบาลเข้าร่วมโครงการจำนวน 242 แห่ง แบ่งเป็นสถานพยาบาลของรัฐจำนวน 163 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชนจำนวน 79 แห่ง เพื่อให้ผู้ประกันตนได้เกิดความมั่นใจในการรับบริการทางการแพทย์ ซึ่งในการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ปี 2563 ให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญาในระบบประกันสังคมในครั้งนี้ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายกรณีค่าบริการทางการแพทย์โดยเฉลี่ยอัตรา 3,959 บาทต่อคนต่อปี
1. ค่าบริการทางการแพทย์ที่เหมาจ่ายให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญา
1.1 กรณีเหมาจ่ายให้แก่สถานพยาบาลตามจำนวนผู้ประกันตนที่ขึ้นทะเบียน อัตรา 1,640 บาทต่อคนต่อปี
1.2 กรณีผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW มากกว่าหรือเท่ากับ 2) อัตรา 746 บาทต่อคนต่อปี
1.3 กรณีผู้ป่วยนอกที่สถานพยาบาลต้องมีภาระการรักษาผู้ประกันตนป่วยด้วยโรคเรื้อรังอัตรา 453 บาทต่อคนต่อปี
รวมจ่ายให้สถานพยาบาลคู่สัญญา อัตรา 2,839 บาทต่อคนต่อปี
2. ค่าบริการทางการแพทย์นอกเหนือการเหมาจ่าย แยกกรณีอุบัติเหตุ ฉุกเฉิน ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์บำบัดรักษาโรค การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะทาง การบำบัดทดแทนไต ค่ายานอกบัญชียาหลัก จ(2) ค่ายาต้านไวรัส ค่ายามะเร็งและรังสีรักษา กรณีปลูกถ่ายไขกระดูก กรณีเปลี่ยนกระจกตา กรณีปลูกถ่ายอวัยวะ กรณีทันตกรรม (อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูด ฟันเทียม) กรณีส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ค่าบริการฝากครรภ์ กรณีค่ารักษาพยาบาลสูงเกิน 1 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้พิการที่เป็นผู้ประกันตน
การปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ในครั้งนี้ เหตุจากสำนักงานประกันสังคมมีผู้ประกันตนที่สูงอายุเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ภาวะเงินเฟ้อ อัตราค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนในการรักษาเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้สถานพยาบาลคู่สัญญาต้องรับภาระค่าใช้จ่าย และให้การดูแลผู้ประกันตนที่มีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจในการรับบริการทางการแพทย์ คณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) จึงมีมติเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ดังกล่าว
ในปี 2563 คณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) ยังคงมุ่งมั่นและทุ่มเทการทำงาน โดยยึดหลักการดำเนินงานภายใต้แนวทางของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งการทำงานต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม ไม่แสวงหาผลประโยชน์ รวมถึงต้องปฏิรูประบบให้บริการทางการแพทย์ ลดความเหลื่อมล้ำ บูรณาการงานด้านบริการทางการแพทย์อย่างเหมาะสม เท่าเทียม มีคุณภาพ อันจะนำไปสู่การยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวมของประเทศอย่างยั่งยืน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์