ช่วงเช้าวันนี้ (10 เมษายน) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาในคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เข้ารายงานตัวต่อศาลอาญาหลังจากเดินทางไปต่างประเทศเพื่อติดต่อธุรกิจ โดยนายเปรมชัย กล่าวว่า งานในต่างประเทศเป็นธุระสำคัญไม่อาจส่งตัวแทนไปทำงานแทนได้ จำเป็นต้องไปติดต่อเองจึงต้องเดินทางไปต่างประเทศหลายแห่งและบ่อยครั้ง เพราะมีการดำเนินธุรกิจร่วมกับต่างชาติหลายประเทศ
เมื่อเสร็จภารกิจแล้วจึงกลับมารายงานตัวต่อศาลตามกำหนด ส่วนเรื่องคดีความที่ทางพนักงานสอบสวนมีความเห็นแย้งอัยการนั้น เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพราะที่ผ่านมาก็ตามข่าวจากสื่อมวลชนเช่นกัน
สำหรับสำนวนคดีที่ศาลอาญาคดีนี้นั้นเป็นคดีพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้นำตัวนายเปรมชัยมายื่นคำร้องฝากขังในข้อหาครอบครองงาช้าง ซึ่งเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งศาลอาญาได้พิจารณาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวตั้งราคาประกัน 3 แสนบาท และไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล
วันเดียวกันนี้ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะพนักงานสอบสวนคดีนายเปรมชัย นำสำนวนความเห็นแย้งมาส่งมอบให้กับอัยการสูงสุด หลังพนักงานอัยการภาค 7 ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องใน 3 ข้อหา ได้แก่
1. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันนำเครื่องมือล่าสัตว์เข้าป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดย พล.ต.อ. ศรีวราห์ กล่าวยืนยันว่าความเห็นแย้งมีเหตุผลเพียงพอ ที่จะพิจารณาให้มีความเห็นสั่งฟ้องเนื่องจากการนำอาวุธปืนเข้าไปในอุทยานผิดกฎระเบียบที่ห้ามไม่ให้บุคคลใดนำอาวุธเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งการขออนุญาตเข้าเขตอุทยานแห่งชาติ นายเปรมชัยไม่ปรากฏว่าขออนุญาตเข้าเขตอุทยานฯ แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุคดีพยายามล่า มองว่าในเมื่อมีการร่วมกันล่าสัตว์ป่าและมีการแบ่งหน้าที่กันทำก็น่าจะเข้าข่ายข้อหาร่วมกันพยายามล่าและร่วมกันทารุณกรรมสัตว์